ประวัติของ ไมเคิล โอเว่น
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ไมเคิล เจมส์ โอเว่น
เกิดวันที่ 14 ธันวาคม 1979
สถานที่เกิด เมืองเชสเตอร์ เชสเชียร์ ประเทศอังกฤษ
เชื้อชาติ อังกฤษ
ส่วนสูง 5 ฟุต 8 นิ้ว (173 เซนติเมตร)
เท้าที่ถนัด เท้าขวา
ตำแหน่ง กองหน้า
สโมสรปัจจุบัน สโต้ค ซิตี้
ไมเคิลโอเว่น มีชื่อเต็มว่า ไมเคิล เจมส์ โอเว่น เขาเกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ปี 1979 ที่เมืองเชสเตอร์ เชสเชียร์ ซึ่งเป็นบุตรชายของ เทอร์รี่ โอเว่น ซึ่งอดีตนักฟุตบอลของเอฟเวอร์ตัน และในวัยเด็กโอเว่นก็เป็นแฟนบอลของเอฟเวอร์ตัน แต่สุดท้ายเขากลับมาสร้างชื่อในวงการลูกหนังด้วยการเป็นนักเตะขวัญใจของแฟนบอลลิเวอร์พูลทีมคู่ปรับร่วมของเอฟเวอร์ตันไปในที่สุด พนันบอลออนไลน์
การเริ่มต้นอาชีพฟุตบอล
โอเว่น เขาเริ่มเส้นทางสายลูกหนังตามความประสงค์ของผู้เป็นพ่อ โดยที่นำตัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนรายนี้ ได้ไปฝากฝังไว้กับผู้จัดการทีมระดับเยาวชนที่ชื่อ ทีมว่า“โมล์ด อเล็กซานดร้า” ในตอนที่เจ้าหนูโอเว่น อยู่ในวัย เพียงแค่10 ขวบแม้ว่าจะมีรูปร่างเล็กกว่าเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน แต่แล้ว เจ้าหนูโอเว่น ก็มีพรสวรรค์ที่เด็กคนอื่นๆไม่มีกัน จนทำให้เขาเป็นนักเตะดาวเด่นของทีม ดูโดยนอกจากจะเล่นให้กับ “โมล์ด อเล็กซานด้า”แล้ว โอเว่น ยังเป็นตัวโรงเรียน ได้ลงเล่นให้กับทีมโรงเรียนประถมของเขา ในฮาวาร์เด้น ประเทศเวลส์ แต่แล้วและยิงประตูได้แบบระเบิดเถิดเทิงหลังจากนั้น โอเว่น ย้ายมาเรียนระดับมัธยมที่ อยู่ของฮาวาร์เด้น ไฮสคูล แต่และก็ยังลงเล่นให้กับทีมโรงเรียนเช่นเดิม ขณะที่บรรดาสโมสรดังๆของพรีเมียร์ลีก เม่ือที่ได้ยินกิตติศัพท์ความร้ายกาจในเชิงลูกหนังของเขา เขาก็ได้พยายามมาชักชวน ไมเคิลโอเว่น ไปร่วมทีมเยาวชนของตนเอง แต่ทางโรงเรียนของเขา ไม่อนุญาตให้นักเรียนที่อายุยังน้อยมากเซ็นสัญญากับทีมใด พนันบอลออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ทีมลิเวอร์พูล หนึ่งในทีมดังที่ต้องการตัวไมเคิล ของโอเว่นก็ยื่นมือเข้ามาชี้แนะให้ โอเว่น ไปฝึกฝนวิชาด้านฟุตบอลเพิ่มเติมที่โรงเรียนสอนฟุตบอลของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ในที่ลีลล์แชลล์ เมืองสแตฟฟอร์ดเชียร์ ในตอนที่เขาอายุ 14ปี และในขณะที่ก็ยังเรียนวิชาสามัญทั่วไปที่ ฮาวาร์เด้น ไฮสคูล หลังจากที่ประคบประหงม ปรกอบกับกล่อมเกลา โอเว่น มาจนถึงในวัย 16 ปี ที่สามารถเซ็นสัญญาเข้าทีมเยาวชนของสโมสรได้แล้ว ในที่สุดและจบการฝึกจากโรงเรียนลูกหนังของเอฟเอ แล้ว ในที่สุด ลิเวอร์พูล แล้วก็คว้าตัว โอเว่น ไปร่วมทีมได้สำเร็จ ตัดหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ อาร์เซน่อล
ระดับอาชีพ
เจ้าหนูไมเคิล โอเวน เป็นกองหน้าที่มีชื่อเสียงและเป็นกำลังหลักของลิเวอร์พูลในระหว่างปีที่เล่นให้กับลิเวอร์พูล ในปี(ค.ศ. 1996 - ค.ศ. 2004) เป็นผู้เล่นที่มีความโดดเด่นมาก เนื่องจากเป็นผู้เล่นที่อายุยังน้อย และยังมีความว่องไว ยิงประตูได้คมกริบ อีกทั้งยังมีหน้าตาดี โดยมักจะถูกเปรียบเทียบกับ สตาร์ดังอย่างเดวิด เบคเบคแคม ผู้เล่นกองกลาง กัปตันทีมชาติอังกฤษเช่นกัน จนได้รับฉายาจากแฟนฟุตบอลชาวไทยว่า "ไอ้หนูมหัศจรรย์" (Baby Goal) พนันบอลออนไลน์
ในปี ค.ศ. 2001 เจ้าหนูไมเคิล โอเวน ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป หรือ ที่เรียกกันว่าบัลลงดอร์ (Ballon d'Or) ต่อมา ในเอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ โอเวน ได้ช่วยทำ 2 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ไปได้2-1 และพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพ ไปครอง และรวมถึง แชมป์ลีกคัพ และ แชมป์ยูฟ่าคัพ ในปีเดียวกันอีกด้วย
ในปี ค.ศ. 2003 และเขาคนนี้ไมเคิล โอเวน พา ลิเวอร์พูล เข้ารอบชิงชนะเลิศ ลีกคัพ เจอกับ คู่ปรับตลอดกาล อย่างทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดย สตีเวน เจอร์ราร์ด ยิงให้ ลิเวอร์พูล ได้ขึ้นนำ 1-0 ในครึ่งแรก แล้วในครึ่งหลัง ไมเคิล โอเวน ก็ยิงประตูปิดท้ายเอาชนะ ทีมคู่ปรับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-0 และพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพ สมัยที่ เจ็ด7 มาครองได้สำเร็จ ได้รวมถึง ไมเคิล โอเวน ทำแฮตทริก โดยยิง 4 ประตูให้ ลิเวอร์พูล ถล่ม เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 6-0
ในปี ค.ศ. ปี2004 ไมเคิล โอเวน เขาได้สร้างความประหลาดใจแก่แฟนบอลและสร้างความเสียใจให้แก่แฟนลิเวอร์พูล ซึ่งเขาโดยได้ย้ายไปอยู่กับ เรอัลมาดริด ในสเปน แต่ว่าไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าสมัยอยู่กับลิเวอร์พูล พนันบอลออนไลน์
ในปี ค.ศ. 2005 ไมเคิล โอเวน ได้ย้ายกลับมาอังกฤษอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้โดยได้ย้ายไปอยู่กับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด แต่ก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่เป็นระยะ และทำให้ไม่สามารถลงเล่นได้มากนัก เมื่อหมดสัญญากับสโมสรนิวคาสเซิลแล้ว ต่อมาในปี 2009 ไมเคิล โอเวน ก็ได้ตัดสินใจย้ายทีมที่สร้างความประหลาดใจให้เหล่าแฟนบอลลิเวอร์พูลด้วยการย้ายไปโดยไม่มีค่าตัวเพื่อเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
โอเว่น เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับทีมลิเวอร์พูล เป็นทีมซึ่งเขาใช้ชีวิตด้วยตั้งแต่เด็ก และเขาก็สามารถทำประตูให้ทีมชุดใหญ่ได้ตั้งแต่การลงเล่นในเกมแรกให้ทีมด้วยอายุเพียง แค่17 ปี ด้วยฝีเท้าที่รวดเร็ว คล่องแคล่ว การเคลื่อนไหวที่ยากจะจับได้ เนื่องด้วยและการปิดสกอร์ที่เชี่ยวชาญ ทำให้การเปิดตัวของเขาในพรีเมียร์เป็นไปอย่างยอดเยี่ยม และเขาก็ใช้เวลาเพียงไม่นานเลยให้การพิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะที่จะมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษฟุตบอลโลกปี ที่1998 ที่ฝรั่งเศส ถือเป็นการเปิดตัวให้ทีมชาติที่ยอดเยี่ยมของโอเว่น และเมื่อเขาทำประตูที่น่าเหลือเชื่อให้กับทีมชาติอังกฤษได้ในเกมที่พบกับทีมชาติอาร์เจนติน่า อยู่ในขณะที่ในเกมนั้นเองก็เกิดใบแดงที่อื้อฉาวของ เดวิด เบ็คแฮม เป็นมิดฟิลด์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในขณะนั้น ทำให้เขาตกเป็นแพะที่ทำให้ทีมชาติอังกฤษต้องเหลือเพียง แค่10 คน และต้องยิงลูกโทษเพื่อตัดสินทีมเข้ารอบ แต่ในเกมนั้นโอเว่นคือผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็นฮีโร่ของทีมชาติอังกฤษอาชีพค้าแข้งของเขากับลิเวอร์พูลดำเนินไปอย่างยอดเยี่ยมปีแล้วปีเล่า ต่อมาหลังจากนั้นและในปี 2001 ก็เป็นปีที่ยอดเยี่ยมของเขา เมื่อเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทีมลิเวอร์พูล ได้คว้า 3 แชมป์ทั้งยูฟ่า คัพ, เอฟเอ คัพ และลีก คัพ นอกจากนี้เกมทีมชาติเขาสามารถทำแฮตทริกได้ในเกมที่พบกับทีมชาติเยอรมัน และซึ่งนั่นก็ให้เขาคว้าถ้วยบัลลงดอร์ และถ้วยนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าไปครอง ของเขาไมเคิล โอเว่น ย้ายออกจากลิเวอร์พูลหลังจากใช้ชีวิตอยู่กับทีมเป็นเวลา 8 ปีที่รุ่งโรจน์พร้อมกับ
การมาของผู้จัดการทีมคนใหม่ อย่างราฟาเอล เย์เบนิเตซ โดยย้ายไปเล่นให้กับรีล มาดริด แต่แม้ว่าเขาจะย้ายไปเล่นในลาลีกา แค่เพียง 1 ฤดูกาล แต่เขาก็ทำประตูได้ถึง 14 ประตูในการลงเล่น ไป22 นัดให้กับรีล มาดริด ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับนิวคาสเซิ่ล จากรายงานด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์แต่ชีวิตในเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ของเขาไม่สวยหรูนัก และเมื่อเขาต้องพบกับอาการบาดเจ็บรุมเร้าอยู่ตลอด จากการอยู่กับเดอะ เดอะแมกพายส์ 4 ฤดูกาลเขาได้ลงเล่นเพียง 65 นัด และทำประตูได้ ถึง30 ประตู ก่อนที่สัญญาของเขากับทีมจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์ปี ที่2009 และนั่นก็เป็นจุดที่เปิดโอกาสให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้คว้าตัวเขามาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในแบบไม่เสียค่าตัว ด้วยสัญญา 2 ปีและก็ต้องถือว่าเขาเปิดตัวกับทีมปีศาจแดงได้ดีทีเดียว และเมื่อการลงเล่นอย่างไม่เป็นทางการนัดแรกของเขาในการทัวร์เอเชียกับทีม และเขาก็สามารถทำประตูให้ทีมได้ในเกมที่พบกับมาเลเซีย เกมแรก โดยจากการเปิดบอลของ ไรอัน กิ๊กส์ และจากนั้นเขาก็ยังสามารถทำประตูได้ในเกมที่สองที่พบกับมาเลเซีย ได้อีกครั้ง ถือว่าเขาเปิดตัวกับทีมใหม่ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว
ทีมชาติอังกฤษ พนันบอลออนไลน์
สำหรับเส้นทางในทีมชาติอังกฤษ
ไมเคิล โอเว่น โด่งดังมาตั้งแต่ในการลงเล่นในทีมชุดเยาวชนของ ทีม“สิงโตคำราม” ก่อนที่จะลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และในนัดที่แพ้ ชิลี ในเกมอุ่นเครื่อง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี ที่1998 หลังจากนั้น โอเว่น มาทำประตูแรกให้กับทีมชาติอังกฤษได้สำเร็จ ในนัดอุ่นเครื่องกับ โมร็อกโก จนเป็นเจ้าของสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้ทีม ชาติ“สิงโตคำราม” ได้ ก่อนจะมาโดน เวย์น รูนี่ย์ ทำลายสถิตินี้ลงได้ เจ้าหนูโอเว่น ติดทีมชาติอังกฤษ ชุดทำศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ปี ของ1998 ที่ฝรั่งเศส ด้วย แม้ว่าจะไปฐานะตัวสำรอง แต่เขาก็สามารถสร้างความประทับใจได้ด้วยการลงไปยิงประตู ทีมชาติโรมาเนีย ในรอบแรก นัดที่สอง ก่อนจะมาโชว์ความสามารถเฉพาะตัวอันยอดเยี่ยมลากบอลจากระยะเกือบครึ่งสนามไปยิงประตู ทีมชาติอาร์เจนติน่า ได้ในการลงเตะ รอบสอง แม้ว่า อังกฤษ จะพ่ายแพ้ตกรอบไปในที่สุด แต่ประตูของ โอเว่น ก็ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดประตูหนึ่งในการแข่งขันหลังจากนั้น และโอเว่น ก็ค่อยๆก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติอังกฤษ ไปในที่สุด จนว่าและทุกคนฝากความหวังในการทำประตูเอาไว้ที่เขา โดยที่ โอเว่น เขาก็ร่วมทีมอังกฤษ ลงทำศึกรายการสำคัญมาโดยตลอด ทั้ง ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ในปี 2000 และ 2004 และ ฟุตบอลโลก ปี 2002 แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยพาอังกฤษ คว้าแชมป์มาครองได้ซักทีในศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่ เยอรมัน โอเว่น เขาไม่สามารถทำประตูในทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าวได้เลย แถมยังต้องได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าฉีกอย่างรุนแรง และนั่นซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาไม่เฉียบขาดเหมือนเดิม ต่อมาและหลังจากที่ต้องหยุดพักรักษาตัวเป็นเวลานาน โอเว่น ก็กลับคืนสู่ทีมชาติอังกฤษ โดยเริ่มจาก ทีมชุดบี ก่อนที่จะมีชื่อติดทีมชุดใหญ่ได้อีกครั้ง
และในวันที่ 11 ธันวาคม ปี 2007 โอเว่น ติดทีม"สิงโตคำราม"ครบ ไปที่88 นัด และทำได้ 40 ประตู ซึ่งเป็นสถิติที่ทำให้เขาก็นักเตะที่ยิงประตูให้ทีมชาติอังกฤษมากที่สุดเป็นอันดับ ที่4 ตามหลัง เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน (49 ประตู), แกรี่ ลินิเกอร์ ที่(48 ประตู) และ จิมมี่ เกรฟส์ (44 ประตู) อย่างไรก็ตาม ด้วยฟอร์มที่ดร็อปลงไป หลังจากนั้นก็ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า โอเว่น ยังเหมาะที่จะเป็นดาวยิงเบอร์ นัมเบอร์วัน1 ของทีมชาติต่อไปหรือไม่ เนื่องจาก มีผู้เล่นดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นมา ไม่่ว่าจะเป็น เวย์น รูนี่ย์ และ ธีโอ วัลค็อตต์
พนันบอลออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น