วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ เอเดน อาซาร์

ประวัติของ เอเดน อาซาร์






ข้อมูลส่วนตัว


ชื่อเต็ม เอเดน มิกาเอล อาซาร์


วันเกิด 7 มกราคม ค.ศ. 1991 


สถานที่เกิด เมืองลาลูเวียร์ ประเทศเบลเยียม


สัญชาติ เบลเยียม


ส่วนสูง 170 เซนติเมตร


น้ำหนัก 69 กิโลกรัม


เท้าที่ถนัด เท้าซ้าย


ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก ปีกซ้าย ปีกขวา


สโมสรปัจจุบัน เชลซี


พนันบอลออนไลน์


ประวัติการค้าแข้ง

เอแดน มีกาแอล อาซาร์ เกิด 7 มกราคม ค.ศ. 1991 ที่เมืองลาลูเวียร์ ประเทศเบลเยียม ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลเชลซี อาซาร์มีจุดเด่นด้านการเล่นแบบสร้างสรรค์ ความเร็ว และความสามารถพิเศษ และได้รับการกล่าวว่าเป็น "กองกลางตัวรุกที่สามารถเปลี่ยนเกมด้วยการเลี้ยงลูกฟุตบอล รวมไปถึงได้รับฉายาว่า "นักฟุตบอลที่เป็นฝันร้ายของกองหลัง" ซึ่งเขาได้รับการเปรียบเทียบความสามารถทักษะและลีลาการเล่น จากสื่อมวลชน และผู้จัดการทีม กับเลียวเนล เมสซี เจ้าของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี และคริสเตียโน โรนัลโด รวมถึงแกเร็ธ เบล อาซาร์เคยติดผู้เล่นยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2014-2015
อาซาร์เป็นลูกชายของอดีตนักฟุตบอลชาวเบลเยียม และเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลอาชีพในประเทศเบลเยียมกับรัวยาลสตาดแบรนัว สโมสรท้องถิ่น และตู๊ว์บีซ ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 เขาได้ย้ายมาเล่นให้กับลีล สโมสรในลีกเอิง โดยอาซาร์ใช้เวลา 2 ปีกับอคาเดมีของสโมสร และเมื่ออายุ 16 ปี เขาได้เล่นกับสโมสรชุดใหญ่ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เขาได้กลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของสโมสรภายใต้การคุมทีมของรูดี การ์ซีอา ด้วยการลงเล่นมากกว่า 190 นัด ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เขาได้ลงเล่น และเขายังได้รับรางวัลสหภาพนักฟุตบอลอาชีพนานาชาติ และนักฟุตบอลเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปี และเป็นผู้เล่นคนแรกที่ไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสที่ได้รับรางวัลนี้ ในฤดูกาล 2009–10 อาซาร์เป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้รับรางวัล 2 ครั้งติดต่อกันและเขายังได้รับการคัดเลือกเป็นทีมยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย 

พนันบอลออนไลน์

สโมสรเยาวชน
1998 – 2003 รอยัล สเตท เบรโนอิส
2003 – 2005 ทูไบซ์
2005 – 2007 ลีลล์ (ชุดสำรอง)

สโมสรอาชีพ
2007 – 2012  ลีลล์    
2012 – ปัจจุบัน เชลซี

ทีมชาติเบลเยียม
2007 – 2008 เบลเยี่ยม ชุด 17 ปี    
2008 – 2009 เบลเยี่ยม ชุด 19 ปี  
2008 – ปัจจุบัน เบลเยี่ยม ชุดใหญ่  

อาซาร์ได้เริ่มต้นการล้งเล่นฟุ้ตบอลอาชีพกับ รั่วย้าลสตาดแบรนัว สโมสรในท้องถิ่นบ้านเกิดของเขา ด้วยวัยเพียง 4 ปี ระหว่างช่วงเวลาของเขากับสโมสร ผู้ฝึกสอนเยาวชนคนหนึ่งได้กล่าวว่าเขาคือ "ผู้เล่นที่มีพรสวรรค์" และยังกล่าวอีกว่า "เขารู้ทุกอย่าง ผมไม่ต้องสอนอะไรเขาอีกแล้ว" อาซาร์ได้ใช้เวลา 8 ปีกับสโมสร ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ ตูว์บีซ และต่อมาได้มีแมวมองจากลีล มาดูฟอร์มการเล่นระหว่างการแข่งขันระดับท้องถิ่น และได้รายงานกัลีล รวมไปถึงได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับพ่อของเขา และได้ทำการเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลชุดเยาวชนของสโมสร

ในฤดูกาลที่2010–11 เขาได้เป็นผู้เล่นตัวหลักของลีล และในฤดูกาลนั้น ลีลคว้าดับเบิลแชมป์ (ฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วย) และยังทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีของลีกเอิง และรางวัลผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับรางวัล บราโวอะวอร์ด จากกูเอรินสปอร์ตีโว นิตยสารในประเทศอิตาลี สำหรับการเล่นของเขาในฤดูกาล 2010–11 ต่อมา ในเดื้อนมิถุน่ายนพ.ศ. 2555 เขาได้ออกจากลี้ล ซึ่งเขาผูกพันกับสโมสรนี้มานานมากกว่า 8 ปี ไปอยู่กับเชลซี ในประเทศอังกฤษ ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์
ในด้านทีมชาติ อาซาร์ ลงสนามให้เบลเยี่ยม ตั้งแต่อายุ 17 ปีในเกมกับ ลั๊กเซ่มเบิร์ก ในเดือน พ.ย. 2008 โดยลงมาเป็นตัวสำรองช่วงท้ายเกมและได้ติดทีมชาติอีก 28 นัดหลังจากนั้น เมื่อมาอยู่กับลีลในฝรั่งเศส อาซาร์ก็ได้ไปเล่นชุดใหญ่อย่างรวดเร็วในปี ค.ศ. 2007 ด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น ในฤดูกาล 2007/08 หรืออีก 2 ปีถัดมา เขาได้โอกาสลงเป็นตัวสำรองมากขึ้น ก่อนที่ฤดูกาลต่อมากองกลางวัยรุ่น จะแจ้งเกิดได้เต็มตัวโดยเป็นนักเตะตัวจริงสม่ำเสมอและทำให้อาซาร์ ได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติและได้รางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมในวัยแค่ 17 ปี 


ในฤดูกาลที่2009/10 ดาวเตะวัยกระเตาะยิ่งทำผลงานได้ร้อนแรงมากขึ้น ก่อนจะผงาดไปคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่ง 2 ปีติดต่อกัน และยังได้มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของลีก เอิง ด้วย ในฤดูกาล 2010/11 ว่ากันว่าเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับอาซาร์ ในสีเสื้อของลีลล์ โดยแม้จะเริ่มต้นได้ไม่ดี หลังจากโค้ชทีมชาติเบลเยี่ยม จอร์จส์ ลีเคนส์ ออกมาวิจารณ์ และโดนดร็อปจากลีลล์จนไมได้ลงสนามเป็นตัวจริงใจช่วง 2 เดือนแรก

มิกาเอลอาซาร์กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง โดยมีบทบาทสำคัญในกาารช่วยให้ทีมคว้าดับเบิลแชมป์ได้ทั้งลีกและบอลถ้วย และยังได้รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีในฤดูกาลกังกล่าว จากการยึด ซีเนอดีน ซีดาน เป็นต้นแบบทำให้เขายิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้น และทำให้มีการพูดกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าสักวันนึงจะมีสโมสรใหญ่ในยุโรปที่คว้าตัวเขาไป

ดาวรุ่งร่างเล็ก ได้ร่วมเล่นกับโจ โคล ในซีซั่นสุดท้ายกับ ลีลล์ ซึ่งเขาทำผลงานด้วยการกดไปถึง 21 ประตูจาก 48 นัด และผ่านบอลให้เพื่อนอีก 18 ครั้ง โดยที่สโมสรได้อันดับที่ 3 รองจากมงต์เปลิเยร์ และปารีส แซงต์ แชร์แมง ทำให้ได้ผ่านไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเขาปิดฉากอย่างน่าประทับใจโดยได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมในเกมสุดท้ายกับลีลล์ และยิงแฮตทริกได้ด้วยในเกมกับน็องซี่

ฤดูกาล 2012-13 อาซาร์ ตัดสินใจย้ายมาหาความท้าทายใหม่ๆในพรีเมียร์ลีก ด้วยการลงเอยกับแชมป์ยุโรปอย่าง เชลซี พร้อมกับค่าตัวมหาศาล 32 ล้านปอนด์ (ราว 1600 ล้านบาท) บวกกับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 1700000 ปอนด (8.5 ล้านบาทต่อสัปดาห์) โดยจะสวมหมายเลข 17 จากนั้นสาตาร์เบลเจี้ยนลงประเดิมสนามเกมแรกในศึกคอมมูนิตี้ ชิลด์ ในการเจกับแมนฯ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก ก่อนจะพาต้นสังกัดใหม่พ่ายไป 2-3

พนันบอลออนไลน์

ทั้งนี้กว่าที่อาซ่าร์ จะประเดิมลูกแรกในสีเสื้อ “สิงห์บลูส์” ต้องรอกระทั่งเกมลีกนัดที่ 3 ซึ่งเปิดบ้านเจอกับ นิวคาสเซิ่ล โดยเกมดังกล่าว จอมทัพร่างเล็กตะบันจุดโทษเข้าไป อย่างไรก็ตามล่าสุด อาซาร์ ทำเรื่องฉาวด้วยการเตะเข้าใส่ชายโครงเด็กเก็บบอลหลังประตู จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างครึกโครม เบื้องต้นเจ้าตัวถูกแบน 3 นัด และอาจจะโดนเพิ่มอีก 3 นัด ในเวลาต่อมา 
 กับทีมชาติเบลเยี่ยม เขาติดทีมชาติมาทุกระดับ และก้าวไปติดทีมชาติชุดใหญ่ได้ในปี 2008 โดยได้ลงเล่นแมตแรกในแมตที่เบลเยี่ยมฟาดแข้งกับลักเซมเบิร์ก ทำให้ เอด็อง อาซาร์ ทำสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในทีมชาติเบลเยี่ยม ที่ได้ลงให้กับทีมชุดใหญ่ด้วยวัย 17 ปี กับอีก 316 วัน
จอมทัพสิงโต้คำร่าม ยอมรับว่าคงยากที่ตนจะเป็นเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ตราบใดที่ยังมี คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี

เอเด็น อาซาร์ มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียมของสโมสร เชลซี เผยว่าตัวเองตั้งเป้าว่าอยากคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องอยากเพราะมีทั้ง คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี ขวางทางอยู่ อาซ้าทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ เชลซี ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเจ้าตัวเผยความฝันยิ่งใหญ่ว่าอยากเป็นเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ให้ได้ แต่คงต้องทำงานให้หนักมากขึ้นเพราะทั้ง โรนัลโด้ และ เมสซี ยังคงสร้างผลงานได้อย่างสุดยอดกับต้นสังกัด

พนันบอลออนไลน์

ชีวิตส่วนตัว

เอเดนอาซาร์และพี่น้องอีก 3 คน ใช้ชีวิตมาอย่างสะดวกสบาย และได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อและแม่ของเขา เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งที่พวกเขาจะเล่นฟุตบอลได้เก่ง ซึ่งครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ห่างจากสนามฝึกซ้อมฟุตบอลในระยะไม่ถึง 3 เมตร และพี่น้องจะฝึกการเล่นฟุตบอลในพื้นที่ฝึกซ้อมนี้ รวมไปถึงการฝึกทักษะต่าง ๆ ด้วยปัจจุบันอาซาร์มีความสัมพันธ์กับนาตาชา แฟนสาวของเขา และในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553 สื่อจากเบลเยียมและฝรั่งเศส ได้ทำการยืนยันว่าเธอได้คลอดลูกชายที่มีชื่อว่า "ยานิส" และลูกชายคนที่ 2 ชื่อว่า "เลโอ" ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 อาซาร์เคยออกตัวแล้วว่า เขาไม่ค่อยได้พูดภาษาอังกฤษ เพราะภาษาอังกฤษเขาเห่ยมากๆ และเขินมากที่จะพูด เวลาพูดกับเพื่อนร่วมทีม เลยมักถูๆไถๆไปเรื่อย แม้หลายคนจะชมว่าภาษาอังกฤษเขาดีขึ้นมากแล้ว แต่อาซาร์ก็ยังคงไม่มั่นใจในตัวเองแบบ "ไม่หรอก เนี่ยดูสิ ภาษาอังกฤษผมเป็นแบบเนี่ย (พูดอ้ำอึ้งๆ) มันยังแย่อยู่เลย" แต่เขาก็บอกว่า ยังพยายามทำให้มันดีขึ้นอยู่ 













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น