วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ ราฮีม สเตอร์ลิง

ประวัติของ ราฮีม สเตอร์ลิง












พนันบอลออนไลน์


ข้อมูลส่วนตัว 


ชื่อเต็ม ราฮีม ชาควิวล์ สเตอร์ลิง


วันเกิด 8 ธันวาคม ค.ศ. 1994 (อายุ 20 ปี)


เกิดที่ เมือง คิงส์ตัน ประเทศ จาไมก้า


สัญชาติ อังกฤษ


ส่วนสูง 170 ซม.


น้ำหนัก 69 กก.


ตำแหน่ง กองกลาง


ลงเล่น 57 นัด


ยิงประตู 6 ประตู


เท้าที่ถนัด เท้าขวา


ย้ายร่วมทีม 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010


ลงนัดแรก 24 มีนาคม ค.ศ. 2012


สโมสรปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้



พนันบอลออนไลน์







เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ



ราฮีม ชาควิวล์ สเตอร์ลิง เขาได้ลืมตามาดูโลกเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1994 และเขาได้โตขึ้นมาในเมือง คงส์ตัน ประเทศ จาเมก้า ก่อนที่เขาจะย้ายมาปักหลักอยู่ที่ประเทศ อังกฤษ หลังจากนั้นเมื่อเขาอายุได้ 11 ขวบ ก็ได้ถูสโมสร QPR ดึงเขามาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนในสังกัด กระทั่งเวลาล่วงเลยไป 4 ปี ชื่อเสียงของ สเตอร์ลิง ก็ได้โด่งดังไปจนถึงประเทศบ้านเกิด ถึงขนาดหนังสือพิมพ์ในท้องถิ่นพาดหัวข่าวใหญ่โตว่า "หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษสุดมหัศจรรย์" จากนั้นเมื่อปี ค.ศ. 2010 เมื่ิเขามีอายุได้ 16 ปี ดาวเตะมากพรสวรรค์รายนี้ ก็ได้ย้ายไปร่วมทัพกับทีม "หงษ์แดง" ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของยุค ราฟาเอล เบนิเตช ด้วยค่าตัวอยู่ที่ 6 แสนปอนด์ (ประมาน 30 ล้านบาท) และค่าตัวสามารถขึ้นไปได้ถึง 5 ล้านปอนด์ ตามเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆ สเตอร์ลิง ได้ลงเปิดซิงให้กับ ลิเวอร์พูลนัดแรกซึ่งเป็นเกมอุ่นเครื่องกับ กลัดบัค ในวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2010 ส่วนในเกมอย่างเป็นทางการในฤดูกาลดังกล่าว "เจ้าหนูตีนจรวด" ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับทีมเยาวชน ก่อนที่เขาจะซัดประตูแรกในชุด ยู - 18 ในเกมที่เสมอกับ ฮิเบอร์เนี่ยน 2 - 2 และหลังจากนั้น ราฮีม สเตอร์ลิง ก็ได้ยึดตำแหน่งตัวจริงของ ลิเวอร์พูล ชุดสำรองได้ตลอดมา โดยมีเพื่อนร่วมทัพอย่าง แจ็ค โรบินสัน , คอนเนอร์ โคดี้ , จอห์น เฟลเนแกน , โทนี่ ซิลวา และ ซูโซ คอยสนับสนุน




พนันบอลออนไลน์




เมื่อฤดูกาล 2010 - 2011 มิดฟิลด์เท้าติดจรวดเขาได้พัฒนาตนเองขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องความแข็งแกร่ง และ ฝีเท้าที่จัดจ้าน ส่วนเกมที่น่าประทับใจมากที่สุดก็คือแมตช์ที่ถล่มเอาชนะ เซาธ์เอนด์ 9 - 0 ในศึก เอฟเอ ยูธ คัพ ซึ่งในนัดนั้น สเตอร์ลิง เขาได้ถลุงไปคนเดียว 5 ประตู หลังจากนั้นดาวเตะรายนี้ก็ได้เติบโตขึ้นเต็มที่ จนทำให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหน้าใหม่ ก็ได้ดันดาวเตะลูกครึ่งจาเมก้า ขึ้นมาเจอความท้าทายใหม่ๆกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งเขาได้ลงประเดิมสนามเกมแรกในฐานะตัวสำรอง ในศึกการแข่งขัน ยูโรป้า ลีก รอบคัดเลือก รอบที่ 3 ที่พบกับทีม โกเมล ต่อมาเขาก็ปลดล็อคประตูแรกให้กับทีม "หงษ์แดง" ชุดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ในเกมอุ่นเครื่องกับทีม เลเวอร์คูเซ่น เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2012 ด้วยลูกยิงสุดสวยจากนอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่เขาจะได้โอดาศลงสนามเป็นตัวจริง ในศึกการแข่งขัน พรีเมียร์ ลีก โดยนัดนั้นได้เสมอกับทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 - 2 ในอีก 3 วันต่อมาหลังจากนั้น เจ้าหนูสเตอร์ลิง ก็ได้ยึดตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงของทีมมาโดยตลอด โดยมีรุ่นพี่ในทีมอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ หลุยส์ ซัวเรส คอยประครอง และล่าสุด สเตอร์ลิง ก็ได้ถูก รอย ฮ็อดจ์สัน เรียกตัวไปติดทีมชาติ อังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในศึกฟุตบบอลโลก รอบคัดเลือก ที่พบกับทีมชาติ ยูเครน พนันบอลออนไลน์






พนันบอลออนไลน์





ปีกตัวจี๊ดเท้าติดจรวด ราฮีม ชาควิวล์ สเตอร์ลิง เขาได้ลืมตามาดูโลกเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1994 และเขาได้โตขึ้นมาในเมือง คงส์ตัน ประเทศ จาเมก้า ก่อนที่เขาจะย้ายมาปักหลักอยู่ที่ประเทศ อังกฤษ หลังจากนั้นเมื่อเขาอายุได้ 11 ขวบ ก็ได้ถูสโมสร QPR ดึงเขามาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนในสังกัด กระทั่งเวลาล่วงเลยไป 4 ปี ชื่อเสียงของ สเตอร์ลิง ก็ได้โด่งดังไปจนถึงประเทศบ้านเกิด ถึงขนาดหนังสือพิมพ์ในท้องถิ่นพาดหัวข่าวใหญ่โตว่า "หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษสุดมหัศจรรย์" จากนั้นเมื่อปี ค.ศ. 2010 เมื่ิเขามีอายุได้ 16 ปี ดาวเตะมากพรสวรรค์รายนี้ ก็ได้ย้ายไปร่วมทัพกับทีม "หงษ์แดง" ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของยุค ราฟาเอล เบนิเตช ด้วยค่าตัวอยู่ที่ 6 แสนปอนด์ (ประมาน 34 ล้านบาท) และค่าตัวสามารถขึ้นไปได้ถึง 5 ล้านปอนด์ ตามเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆ สเตอร์ลิง ได้ลงเปิดซิงให้กับ ลิเวอร์พูลนัดแรกซึ่งเป็นเกมอุ่นเครื่องกับ กลัดบัค ในวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2010 ส่วนในเกมอย่างเป็นทางการในฤดูกาลดังกล่าว "เจ้าหนูตีนจรวด" ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับทีมเยาวชน ก่อนที่เขาจะซัดประตูแรกในชุด ยู - 18 ในเกมที่เสมอกับ ฮิเบอร์เนี่ยน 2 - 2 และหลังจากนั้น ราฮีม สเตอร์ลิง ก็ได้ยึดตำแหน่งตัวจริงของ ลิเวอร์พูล ชุดสำรองได้ตลอดมา โดยมีเพื่อนร่วมทัพอย่าง แจ็ค โรบินสัน , คอนเนอร์ โคดี้ , จอห์น เฟลเนแกน , โทนี่ ซิลวา และ ซูโซ คอยสนับสนุน และคอยซัพพอร์ทกันตลอดมา และทุกวันนี้ เฟลเนแกน ก็ได้ขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่เหมือนกับเขาแล้ว






พนันบอลออนไลน์






มิดฟิลด์เท้าติดจรวดเขาได้พัฒนาตนเองขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องความแข็งแกร่ง และ ฝีเท้าที่จัดจ้าน ส่วนเกมที่น่าประทับใจมากที่สุดก็คือแมตช์ที่ถล่มเอาชนะ เซาธ์เอนด์ 9 - 0 ในศึก เอฟเอ ยูธ คัพ ซึ่งในนัดนั้น สเตอร์ลิง เขาได้ถลุงไปคนเดียว 5 ประตู หลังจากนั้นดาวเตะรายนี้ก็ได้เติบโตขึ้นเต็มที่ จนทำให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหน้าใหม่ ก็ได้ดันดาวเตะลูกครึ่งจาเมก้า ขึ้นมาเจอความท้าทายใหม่ๆกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งเขาได้ลงประเดิมสนามเกมแรกในฐานะตัวสำรอง ในศึกการแข่งขัน ยูโรป้า ลีก รอบคัดเลือก รอบที่ 3 ที่พบกับทีม โกเมล ต่อมาเขาก็ปลดล็อคประตูแรกให้กับทีม "หงษ์แดง" ชุดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ในเกมอุ่นเครื่องกับทีม เลเวอร์คูเซ่น เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2012 ด้วยลูกยิงสุดสวยจากนอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่เขาจะได้โอดาศลงสนามเป็นตัวจริง ในศึกการแข่งขัน พรีเมียร์ ลีก โดยนัดนั้นได้เสมอกับทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 - 2 ในอีก 3 วันต่อมาหลังจากนั้น เจ้าหนูสเตอร์ลิง ก็ได้ยึดตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงของทีมมาโดยตลอด โดยมีรุ่นพี่ในทีมอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ หลุยส์ ซัวเรส คอยประครอง และล่าสุด สเตอร์ลิง ก็ได้ถูก รอย ฮ็อดจ์สัน เรียกตัวไปติดทีมชาติ อังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในศึกฟุตบบอลโลก รอบคัดเลือก ที่พบกับทีมชาติ ยูเครน เมื่อวันที 10 กันยายน ค.ศ. 2012
















พนันบอลออนไลน์

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ มามาดู ซาโก้

ประวัติของ มามาดู ซาโก้ 










พนันบอลออนไลน์


ข้อมูลส่วนตัว


ชื่อเต็ม มามาดู ซาโก้


วันเกิด 13 กุมถาพันธ์ ค.ศ. 1990 (อายุ 25 ปี)


เกิดที่ เมือง ปารีส ประเทศ ฝรั่งเศส


ทีมชาติ ฝรั่งเศส


ส่วนสูง 187 ซม.


น้ำหนัก 76 กก.


ตำแหน่ง กองหลัง


ลงเล่น 13 นัด


ยิงประตู 1 ประตู


เท้าที่ถนัด เท้าซ้าย


สโมสรปัจจุบัน ลิเวอร์พูล


ย้ายร่วมทีม 2 กันยายน ค.ศ. 2013


ลงนัดแรก 16 กันยายน ค.ศ. 2013


หมายเลขเสื้อ เบอร์ 17



พนันบอลออนไลน์


พนันบอลออนไลน์


มามาดู ซาโก้ เขาได้เติบโตที่กรุงปารีส เขาเป็นลูกคนที่ 4 ในบรรดาลูกทั้ง 7 คน และเขาเป็นคนฝรั่งเศสที่มีเชื้อสาย เซเนกัล เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลในระดับเยาวชน กับสโมสรบ้านเกิดอย่าง ปารีส เอฟซี ตั้งแต่ปี 1996 ก่อนที่เขาจะย้ายไปร่วมทัพกับทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อปี ค.ศ. 2002 ซึ่งใในตอนนั้นเขาเล่นเป็นตำแหน่งกองหน้า แต่โค้ชได้เล็งเห็นว่าเขาเหมาะที่จะเป็นกองหลังมากกว่า ทำให้ได้เปลี่ยนเขามาเล่นในตำแหน่งกองหลัง ตั้งแต่นั้นมา ซาโก้ เกือบโดนไล่ออกจาก อคาเดมี่ของแปแอชแช เพราะการประพฤติตัวแย่ของเขาในช่วงอายุ 14 ปี พ่อของเขาได้เสียชีวิตอย่างกระทันหัน ทำให้เขาเลิกเล่นฟุตบอลไปในช่วงหนึ่ง แต่เขาก็ได้ตัดสินใจกลับมาเตะฟุตบอลออีกครั้ง โดยคราวนี้เขาได้กลับมาพร้อมความมุ่งมั่น และก็เลิกทำตัวแย่ๆของตัวเขาเอง และหันมาทุ่มเทให้กับการเล่นฟุตบอลเพียงอย่างเดียว หลังจากที่เขาถูกบ่มเพาะอยู่ในทีมเยาวชนของทีม และเขาก็โชว์ฟอร์มได้ดีในปี 2007 ปอล เลอ กูเอน กุนซือของทีมในยุคนั้น ได้เรียกตัวเขาให้ขึ้นมาเตะกับทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมา เขาได้ลงเล่นครั้งแรกในเกม ยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ในนัดที่เจอกับ อีเอเค เอเธนส์ และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สามารถบดเอาชนะไปได้ 2 - 0




พนันบอลออนไลน์





เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2007 ซาโก้ ได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับทีมต้นสังกัด ด้วยระยะเวลา 3 ปี และเขาได้ก้าวขึ้นไปติดในทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการในฤดูกาลที่ 2007 - 2008 ด้วยวัยเพียง 17 ปี และเขาได้เลือกสวมเสื้อหมายเลข 3 เขาได้ลงประเดิมสนามครั้งแรกให้กับทีมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2007 ในนัดที่เสมอกับ วาล็องเซียนส์ ด้วยสกอร์ 0 - 0 และ เลอ กูเอน ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นกัปตันทีมในตอนนั้น ซึ่งตอนน้นเขามีอายุเพียง 17 ปี 8 เดือน เท่านั้นเอง ท่ามกลางความสงสัยสัยของหลายต่อหลายคน เพราะว่าในทีมก็มีนักเตะอาวุโสอีกตั้งหลายคนที่ควรจะได้ และนั่นก็ทำให้เขาเป็นกัปตันทีมที่มีอายุน้อยที่สุดของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในเวลานั้น และยังเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดในการที่ได้รับตำแหน่งกัปตันทีม ของลีกเอิงอีกด้วย ซาโก้ เขาประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์แรกในชีวิต นั่นคือรายการ เฟรนช์ ลีก คัพ ในปี 2008 โดยในนัดชิงชนะเลิศ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เอาชนะสโมสร ล็อง ไปได้ด้วยสกอร์ 2 - 1 ฤดูกาลต่อมา ซาโก้ ทำประตูแรกในชีวิตการค้าแข้งของตัวเองได้ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 หลังจากวันเกิดครบรอบอายุ 19 ปีของเขาแค่วันเดียว โดยการยิงประตูในการแข่งขัน ลีกเอิง ที่พบกับ แซงต์ เอเตียน ต่อมาในปี 2011 ซาโก้ ได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม และยังมีชื่ออยู่มนทีมยอดเยี่ยมแห่งปี ในฤดูกาลนั้นอีกด้วย





พนันบอลออนไลน์





ยอดเซ็นเตอร์ฮาล์ฟผิวสี ซาโก้ เขาได้เติบโตที่กรุงปารีส เขาเป็นลูกคนที่ 4 ในบรรดาลูกทั้ง 7 คน และเขาเป็นคนฝรั่งเศสที่มีเชื้อสาย เซเนกัล เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลในระดับเยาวชน กับสโมสรบ้านเกิดอย่าง ปารีส เอฟซี ตั้งแต่ปี 1996 ก่อนที่เขาจะย้ายไปร่วมทัพกับทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เมื่อปี ค.ศ. 2002 ซึ่งใในตอนนั้นเขาเล่นเป็นตำแหน่งกองหน้า แต่โค้ชได้เล็งเห็นว่าเขาเหมาะที่จะเป็นกองหลังมากกว่า ทำให้ได้เปลี่ยนเขามาเล่นในตำแหน่งกองหลัง ตั้งแต่นั้นมา ซาโก้ เกือบโดนไล่ออกจาก อคาเดมี่ของแปแอชแช เพราะการประพฤติตัวแย่ของเขาในช่วงอายุ 14 ปี พ่อของเขาได้เสียชีวิตอย่างกระทันหัน ทำให้เขาเลิกเล่นฟุตบอลไปในช่วงหนึ่ง แต่เขาก็ได้ตัดสินใจกลับมาเตะฟุตบอลออีกครั้ง โดยคราวนี้เขาได้กลับมาพร้อมความมุ่งมั่น และก็เลิกทำตัวแย่ๆของตัวเขาเอง และหันมาทุ่มเทให้กับการเล่นฟุตบอลเพียงอย่างเดียว หลังจากที่เขาถูกบ่มเพาะอยู่ในทีมเยาวชนของทีม และเขาก็โชว์ฟอร์มได้ดีในปี 2007 ปอล เลอ กูเอน กุนซือของทีมในยุคนั้น ได้เรียกตัวเขาให้ขึ้นมาเตะกับทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมา เขาได้ลงเล่นครั้งแรกในเกม ยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ในนัดที่เจอกับ อีเอเค เอเธนส์ และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สามารถบดเอาชนะไปได้ 2 - 0 สำหรับในนามทีมชาติ ซาโก้ ติดทีมชาติฝรั่งเศสในทุกชุดเรื่อยมาจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ตั่งแต่เขาอายุ 17 ปี



พนันบอลออนไลน์




เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2010 เขาได้ลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก ซาโก้ ได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับทีมต้นสังกัด ด้วยระยะเวลา 3 ปี และเขาได้ก้าวขึ้นไปติดในทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการในฤดูกาลที่ 2007 - 2008 ด้วยวัยเพียง 17 ปี และเขาได้เลือกสวมเสื้อหมายเลข 3 เขาได้ลงประเดิมสนามครั้งแรกให้กับทีมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2007 ในนัดที่เสมอกับ วาล็องเซียนส์ ด้วยสกอร์ 0 - 0 และ เลอ กูเอน ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นกัปตันทีมในตอนนั้น ซึ่งตอนน้นเขามีอายุเพียง 17 ปี 8 เดือน เท่านั้นเอง ท่ามกลางความสงสัยสัยของหลายต่อหลายคน เพราะว่าในทีมก็มีนักเตะอาวุโสอีกตั้งหลายคนที่ควรจะได้ และนั่นก็ทำให้เขาเป็นกัปตันทีมที่มีอายุน้อยที่สุดของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในเวลานั้น และยังเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดในการที่ได้รับตำแหน่งกัปตันทีม ของลีกเอิงอีกด้วย ซาโก้ เขาประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์แรกในชีวิต นั่นคือรายการ เฟรนช์ ลีก คัพ ในปี 2008 โดยในนัดชิงชนะเลิศ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เอาชนะสโมสร ล็อง ไปได้ด้วยสกอร์ 2 - 1 ฤดูกาลต่อมา ซาโก้ ทำประตูแรกในชีวิตการค้าแข้งของตัวเองได้ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 หลังจากวันเกิดครบรอบอายุ 19 ปีของเขาแค่วันเดียว โดยการยิงประตูในการแข่งขัน ลีกเอิง ที่พบกับ แซงต์ เอเตียน ต่อมาในปี 2011 ซาโก้ ได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม และยังมีชื่ออยู่มนทีมยอดเยี่ยมแห่งปี ในฤดูกาลนั้นอีกด้วย การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของชีวิตเขาเกิดขึ้นในปี 2012



พนันบอลออนไลน์



เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 2013 ซาโก้ ตกลงปลงใจย้ายมาร่วมทัพกับทีม "หงษ์แดง" ลิเวอร์พูล ยังถิ่น แอนฟิลด์ ด้วยค่าตัวอยู่ที่ 19 ล้านปอนด์ (ประมาน 900 ล้านบาท) เราต้องมาดูกันว่า ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสคนนี้ เขาจะสามารถทำได้ดีแค่ไหน ในศึกการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก แต่ด้วยความสามารถขนาดนี้ เราก็การันตีได้แล้วว่า ชื่อของเขาจะติดปากและฟอร์มการเล่นเขาจะประทับใจแฟนบอล "หงษ์แดง" เป็นที่แน่นนอน
















พนันบอลออนไลน์

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย

ประวัติของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย 





พนันบอลออนไลน์





ข้อมูลนักเตะ


ชื่อเต็ม อันโตนิโอ วาเลนเซีย


วันเกิด 4 สิงหาคม ค.ศ. 1985 (อายุ 29 ปี)


เกิดที่ เมือง ลาโก อากริโอ ประเทศ เอกวาดอร์


ทีมชาติ เอกวาดอร์


ส่วนสูง 181 ซม.


น้ำหนัก 78 กก.


ตำแหน่ง กองกลาง ปีกขวา และ แบ็คขวา


ลงเล่น 210 นัด


ยิงประตู 21 ประตู


เท้าที่ถนัด เท้าขวา


ย้ายร่วมทีม 30 มิถุนายน ค.ศ. 2009


ลงนัดแรก 9 สิงหาคม ค.ศ. 2009 พบกับ เชลซี


สโมสรปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด





เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลออาชีพ 


อันโตนิโอ วาเลนเซีย เริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสร คาริบ จูเนียร์ สโมสรในบ้านเกิดของเขา ก่อนที่จะเริ่มเตะอาชีพกับทีม เอล ซิอองนาล เมื่อปี ค.ศ. 2001 แล้วได้ย้ายมาร่วมทัพกับ บียาร์รีล ทีมดังในลาลีกาสเปนเมื่อปี ค.ศ. 2005 ด้วยสัญญา 5 ปี แต่เขาก็ไม่สามารถแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ได้ และได้ถูกปล่อยตัวให้ทีม เรเครติโบ อูเอวบา ยืมตัวไปใช้งาน วาเลนเซียร์ เขาเล่นได้ดีในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง และปีกขวาแต่ช่วงหลังมานี้ด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งของเขา เขาจึงถูกจับให้ไปเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คฝั่งขวา และในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2006 เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับทีมชาติเอกวาดอร์ จนเขาถูโหวตให้ได้รับรางวัล "ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฟีฟ่า" FIFA's  Best Young Player Award และในปีเดียวกันเขาก็ได้ย้ายเข้ามาเตะที่เกาะอังกฤษ ในศึก พรีเมียร์ ลีก ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี กับทีม วีแกน แอธเลติก ก่อนที่จะเซ็นสัญญาซื้อตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2008 แต่ยังไม่หยุดแค่นั้นเมือฟอร์มของเขาถูกจับตามอง จากทีมยักษ์ใหญ่หลายต่อหลายทีมใน พรีเมียร์ ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เชลซี รวมไปถึงทีมดังจากลีกสเปนอย่าง เรอัล มาดริด แต่ในที่สุดเมื่อปี 2009 เขาก็ได้ตกลงปลงใจเซ็นสัญญากับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 4 ปี ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์





พนันบอลออนไลน์




วาเลนเซีย เริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสร คาริบ จูเนียร์ สโมสรในบ้านเกิดของเขา ก่อนที่จะเริ่มเตะอาชีพกับทีม เอล ซิอองนาล เมื่อปี ค.ศ. 2001 แล้วได้ย้ายมาร่วมทัพกับ บียาร์รีล ทีมดังในลาลีกาสเปนเมื่อปี ค.ศ. 2005 ด้วยสัญญา 5 ปี แต่เขาก็ไม่สามารถแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ได้ และได้ถูกปล่อยตัวให้ทีม เรเครติโบ อูเอวบา ยืมตัวไปใช้งาน วาเลนเซียร์ เขาเล่นได้ดีในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง และปีกขวาแต่ช่วงหลังมานี้ด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งของเขา เขาจึงถูกจับให้ไปเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คฝั่งขวา และในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2006 เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับทีมชาติเอกวาดอร์ จนเขาถูโหวตให้ได้รับรางวัล "ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฟีฟ่า" FIFA's  Best Young Player Award และในปีเดียวกันเขาก็ได้ย้ายเข้ามาเตะที่เกาะอังกฤษ ในศึก พรีเมียร์ ลีก ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี กับทีม วีแกน แอธเลติก ก่อนที่จะเซ็นสัญญาซื้อตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2008 แต่ยังไม่หยุดแค่นั้นเมือฟอร์มของเขาถูกจับตามอง จากทีมยักษ์ใหญ่หลายต่อหลายทีมใน พรีเมียร์ ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เชลซี รวมไปถึงทีมดังจากลีกสเปนอย่าง เรอัล มาดริด แต่ในที่สุดเมื่อปี 2009 เขาก็ได้ตกลงปลงใจเซ็นสัญญา 4 ปี และค่าตัว 16 ล้านปอนด์ กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด



พนันบอลออนไลน์


เมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2000 อันโตนิโอ วาเลนเซีย เริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสร คาริบ จูเนียร์ สโมสรในบ้านเกิดของเขา ก่อนที่จะเริ่มเตะอาชีพกับทีม เอล ซิอองนาล เมื่อปี ค.ศ. 2001 แล้วได้ย้ายมาร่วมทัพกับ บียาร์รีล ทีมดังในลาลีกาสเปนเมื่อปี ค.ศ. 2005 ด้วยสัญญา 5 ปี แต่เขาก็ไม่สามารถแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ได้ และได้ถูกปล่อยตัวให้ทีม เรเครติโบ อูเอวบา ยืมตัวไปใช้งาน วาเลนเซียร์ เขาเล่นได้ดีในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง และปีกขวาแต่ช่วงหลังมานี้ด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งของเขา เขาจึงถูกจับให้ไปเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คฝั่งขวา และในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2006 เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับทีมชาติเอกวาดอร์ จนเขาถูโหวตให้ได้รับรางวัล "ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฟีฟ่า" FIFA's  Best Young Player Award และในปีเดียวกันเขาก็ได้ย้ายเข้ามาเตะที่เกาะอังกฤษ ในศึก พรีเมียร์ ลีก ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี กับทีม วีแกน แอธเลติก ก่อนที่จะเซ็นสัญญาซื้อตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2008 แต่ยังไม่หยุดแค่นั้นเมือฟอร์มของเขาถูกจับตามอง จากทีมยักษ์ใหญ่หลายต่อหลายทีมใน พรีเมียร์ ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เชลซี รวมไปถึงทีมดังจากลีกสเปนอย่าง เรอัล มาดริด แต่ในที่สุดเมื่อปี 2009 เขาก็ได้ตกลงปลงใจเซ็นสัญญากับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 4 ปี ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ พนันบอลออนไลน์






พนันบอลออนไลน์







และหลังจากนั้น วาเลนเซีย เริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสร คาริบ จูเนียร์ สโมสรในบ้านเกิดของเขา ก่อนที่จะเริ่มเตะอาชีพกับทีม เอล ซิอองนาล เมื่อปี ค.ศ. 2001 แล้วได้ย้ายมาร่วมทัพกับ บียาร์รีล ทีมดังในลาลีกาสเปนเมื่อปี ค.ศ. 2005 ด้วยสัญญา 5 ปี แต่เขาก็ไม่สามารถแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ได้ และได้ถูกปล่อยตัวให้ทีม เรเครติโบ อูเอวบา ยืมตัวไปใช้งาน วาเลนเซียร์ เขาเล่นได้ดีในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง และปีกขวาแต่ช่วงหลังมานี้ด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งของเขา เขาจึงถูกจับให้ไปเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คฝั่งขวา และในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2006 เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับทีมชาติเอกวาดอร์ จนเขาถูโหวตให้ได้รับรางวัล "ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฟีฟ่า" FIFA's  Best Young Player Award และในปีเดียวกันเขาก็ได้ย้ายเข้ามาเตะที่เกาะอังกฤษ ในศึก พรีเมียร์ ลีก ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี กับทีม วีแกน แอธเลติก ก่อนที่จะเซ็นสัญญาซื้อตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2008 แต่ยังไม่หยุดแค่นั้นเมือฟอร์มของเขาถูกจับตามอง จากทีมยักษ์ใหญ่หลายต่อหลายทีมใน พรีเมียร์ ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เชลซี รวมไปถึงทีมดังจากลีกสเปนอย่าง เรอัล มาดริด แต่ในที่สุดเมื่อปี 2009 เขาก็ได้ตกลงปลงใจเซ็นสัญญา 4 ปี กับทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับค่าตัว 16 ล้านปอด์ เพื่อที่จะยายมาซบถิ่น โอลด์แทรฟฟอร์ดอย่างอบอุ่น





พนันบอลออนไลน์





อันโตนิโอ วาเลนเซีย เริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสร คาริบ จูเนียร์ สโมสรในบ้านเกิดของเขา ก่อนที่จะเริ่มเตะอาชีพกับทีม เอล ซิอองนาล เมื่อปี ค.ศ. 2001 แล้วได้ย้ายมาร่วมทัพกับ บียาร์รีล ทีมดังในลาลีกาสเปนเมื่อปี ค.ศ. 2005 ด้วยสัญญา 5 ปี แต่เขาก็ไม่สามารถแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ได้ และได้ถูกปล่อยตัวให้ทีม เรเครติโบ อูเอวบา ยืมตัวไปใช้งาน วาเลนเซียร์ เขาเล่นได้ดีในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง และปีกขวาแต่ช่วงหลังมานี้ด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งของเขา เขาจึงถูกจับให้ไปเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คฝั่งขวา และในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 2006 เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับทีมชาติเอกวาดอร์ จนเขาถูโหวตให้ได้รับรางวัล "ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฟีฟ่า" FIFA's  Best Young Player Award และในปีเดียวกันเขาก็ได้ย้ายเข้ามาเตะที่เกาะอังกฤษ ในศึก พรีเมียร์ ลีก ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี กับทีม วีแกน แอธเลติก ก่อนที่จะเซ็นสัญญาซื้อตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2008 แต่ยังไม่หยุดแค่นั้นเมือฟอร์มของเขาถูกจับตามอง จากทีมยักษ์ใหญ่หลายต่อหลายทีมใน พรีเมียร์ ลีก อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล เชลซี รวมไปถึงทีมดังจากลีกสเปนอย่าง เรอัล มาดริด แต่ในที่สุดเมื่อปี 2009 เขาก็ได้ตกลงปลงใจเซ็นสัญญากับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 4 ปี ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์
















พนันบอลออนไลน์

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ อังเคล ดิ มาเรีย

ประวัติของ อังเคล ดิ มาเรีย









พนันบอลออนไลน์


ข้อมูลนักเตะ


ชื่อเต็ม อังเคล ฟาเบียน ดิ มาเรีย เอร์นานเดซ


เกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1988 (อายุ 26 ปี)


สถานที่เกิด เมือง โรซาริโอ ประเทศ อาร์เจนติน่า


สัญชาติ อาร์เจนติน่า


ส่วนสูง 180 ซม.


น้ำหนัก 70 กก.


ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก และ ปีก


เท้าที่ถนัด เท้าซ้าย


สโมสรปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


ย้ายมาร่วมทีมเมื่อ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2014


หมายเลขเสื้อ เบอร์ 7




ประวัติการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ


อังเคล ฟาเบียน ดิ มาเรีย เอร์นานเดซ เขาได้เกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1988 เขาเป็นนักฟุตบอลชาว อาร์เจนติน่า ทุกวันนี้เขาได้เล่นให้กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด (พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ) เล่นในตำแหน่ง ปีก หรือ มิดฟิลด์ตัวรุก เขาเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสร โรซาริโอ เซ็นทรัล ทีมในบ้านเกิดของเขา ดิ มาเรีย ย้ายมาค้าแข้งในยุโรปเมื่อปี 2007 ให้กับสโมสร เบนฟิก้า ในเมืองลิวบอน ประเทศโปรตุเกส ก่อนที่เขาจะโชว์ฟอร์มเตะตาทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีมในเวลาต่อมาด้วยค่าตัว 25 ล้านยุโร และในปัจจุบัน ดิ มาเรีย ย้ายมาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กับทีม แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด เมื่อปี ค.ศ. 2014 ด้วยค่าตัว 59 ล้านปอนด์



พนันบอลออนไลน์



ดิ มาเรีย เขามีรายชื่อติดทีมชาติ อาร์เจนติน่าครั้งแรกเมื่ปี ค.ศ. 2008 ในปัจจุบันเขาได้รับใช้ทีมชาติไปแล้วทั้งหมด 50 นัด ความสำเร็จในทีมชาติของเขาก็คือคว้าแชมป์ โอลิมปิก 2008 และยังเป็นกำลังสำคัญในการนำทัพ ฟ้า-ขาว คว้าแชมป์ โคปาอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 2011


สโมสรเบนฟิก้า ลิสบอน 2007


พนันบอลออนไลน์


ดิ มาเรีย ย้ายมาร่วมทีมเบนฟิก้า ในช่วงเดือน กรกฏาคม ค.ศ. 2007 ซึ่งในตอนนั้นค่าตัวของเขามีประมาน 6 ล้านยูโร ดิ มาเรีย ได้รับการสรรเสิญเยินยออย่างสูงที่ลิสบอน เขายังเคยได้รับคำชมจาก หลุยส์ เฟลิเป้ วิเอร่า ประธานสโมสรเบนฟิก้าว่า "ดาวเตะจากอาร์เจนติน่าคือการซื้อตัวที่สมบูรณ์แบบที่สุดของสโมสรนี้" ดิ มาเรีย ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะหมายเลข 1 ของทีม แทนที่ ซิเมา ซาโบซ่า ได้อย่างไม่มีที่ติ ในช่วงแรก ดิ มาเรีย แสดงให้แฟนบอลได้เห็นถึงการปรับตัวของเขาได้เป็นอย่างดี ด้วยความรวดเร็ว และทักษะความสามารถบวกกับพรสวรรค์ของเขา ในช่วงฤดูกาลที่ 2009 ดิ มาเรีย ได้ขยายสัญญากับ เบนฟิก้า ออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2015 ซึ่งในเวลานั้น ดิเอโก้ มาราโดน่า ที่ยังทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมของ อาร์เจนติน่า อยู่ ได้ออกมาพูดถึง ดิ มาเรีย ว่าเขาจะเป็นซุปเปอร์สตาร์ของทีมชาติอาร์เจนติน่าคนต่อไป สถิติการลงเล่นกับทีม เบนฟิก้า ของ ดิ มาเรีย ลงเล่นไป 123 ทำได้ 15 ประตู ความสำเร็จกับสโมสรเบนฟิก้า ลิสบอน 1 แชมป์ ลีกา ซาเกรส ฤดูกาลที่ 2009 - 2010 และแชมป์ ทาซ่า ดา ลีกา ฤดูกาลที่ 2008 - 2009 และ 2009 - 2010



พนันบอลออนไลน์



สโมสร เรอัล มาดริด 2012 - 2013


เมื่อวันที่ 8 กรกฏาคม ค.ศ. 2010 สโมสร เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังสเปน ได้ประกาศคว้าตัว อังเคล ดิ มาเรีย มาร่วมทัพด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร บวกกับออฟชั่นเพิ่มเติมอีก 11 ล้านยูโร โดยเซ็นสัญญาไป 5 ปี ดิ มาเรีย ประเดิมสนามให้กับ "ราชันชุดขาว" ในเกมที่เจอกับ คลับ อเมริกา ก่อนที่มาดริดจะเอาชนะไป 3 - 2 และเขาสามารถทำประตูแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ในนัดที่เอาชนะ เอร์กูเลส 3 - 1 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับทีม เรอัล มาดริด ในทุกยุคของกุนซือที่คุมทีมชุดขาว ไม่ว่าจะเป็น มานูเอล เปเยร์กรินี , โจเซ่ มูรินโญ่ , และ คาร์โร อันเชล็อตติ ในถิ่น ซานดิเอโก้ เบนาเบว แห่งนี้ ดิ มาเรีย ได้พัฒนาศักยภาพของตัวเองจนสามารถเป็นนักเตะ ที่เติมเกมรุกขงองทีมชุดขาวได้อย่างเนียนตา ไม่เพียงแค่ผลงานส่วนตัวที่แพรวพราวเท่านั้น ดิ มาเรีย ยังพา เรอัล มาดริด กวาดแชมป์เกือบจะทุกรายการที่พวกเขาลงแข่งขัน มีดังต่อไปนี้

พนันบอลออนไลน์

1. ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2013 - 2014
2. ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ 2014
3. ลาลีกา สเปน 2011 - 2012
4. โคปา เดล เลย์ 2010 - 2011 และ 2013 - 2014
5. ซุปเปอร์โคปา เด เอสพานญ่า 2012


สถิติส่วนตัวของ ดิ มาเรีย รวม 4 ฤดูกาล กับสโมสร เรอัล มาดริด คือ ลงเล่นไปทั้งหมด 190 นัด และเขายิงไปได้ 36 ประตู



พนันบอลออนไลน์



สโมสร แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด


เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2014 สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประกาศคว้าตัวดาวเตะชาว อาร์เจนไตน์ มาร่วมทัพปีศาจแดง ด้วยค่าตัวระดับสถิติ พรีเมียร์ ลีก อยุ่ที่ 59.7 ล้านปอนด์ เมื่อเขาย้ายมายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาก็ได้สร้างความประทีบใจหลายๆอย่างให้กับแฟนๆ เรดอาร์มมี่ และหนึ่งในนั้นก็คือ ลูกชิพอันสุดสวยของเขา ในเกมที่แมนยูฯไนเต็ด พบกับทีม เลสเตอร์ ซิตี้ และนั่นก็ทำให้เขาได้คว้ารางวัล Goal cup ของ พรีเมียร์ ลีก จากการโหวตของแฟนๆ ผ่านทางทวิสเตอร์ ซึ่งเป๋็นรางวัลสำหรับประตูที่สวยงามที่สุดของ พรีเมียร์ ลีก ในฤดูกาลที่ 2014 - 2015

















พนันบอลออนไลน์

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ อดัม ลัลลานา

ประวัติของ อดัม ลัลลานา




พนันบอลออนไลน์


ข้อมูลผู้เล่น 


ชื่อเต็ม อดัม เดวิด ลัลลานา


เกิดวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1988 (อายุ 27 ปี)


สถานที่เกิด เมือง เซนต์ อันแบนส์ ประเทศ อังกฤษ


ทีมชาติ อังกฤษ


ส่วนสูง 174 เซนติเมตร


ตำแหน่ง กองกลางตัวรุก และ ปีกขวา


เท้าที่ถนัด เท้าขวา


สโมสรปัจจุบัน ลิเวอร์พูล


หมายเลขเสื้อ เบอร์ 20



ประวัติการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ


อดัม เดวิด ลัลลานา เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1988 ณ เมือง เซนต์ อัลแบนส์ แต่แล้วเขาก็ต้องย้ายไปอยู่ บอร์นมัธ ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ซึ่งเขาได้เป็นแฟนบอลของ เอฟเวอรืตัน เช่นเดียวกับพ่อของเขา


สโมสรเซาแธมป์ตัน ปี 2000 - 2006 (เยาวชน) พนันบอลออนไลน์

ลัลลานา เข้าสมัครเข้าเป็นสมาชิกศุนย์ฝึกความเป็นเลิศกับ บอร์นมัธ และด้วยความสามารถอันล้นเหลือของเขา ทำให้ฟอร์มการเล่นไปเตะตาแมวมองของทีม "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน และนั่นทำให้เขาได้เข้าร่วมอคาเดมี่ของทีม เซาแธมป์ตัน ด้วยวัยเพียง 12 ปี เมื่อปี ค.ศ. 2000 โดยที่ทีม บอร์นมัธ ได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวน 3,000 ปอนด์ (ประมาน 167,000 บาท) และค่าสัญญาทุนการศึกษา พร้อมทั้งค่าสัญญานักฟุตบอลอาชีพรวมทั้งสิ้น 15,000 ปอนด์ (ราว 833,000  บาท) นอกจากนี้ทางสโมสร บอร์นมัธ จะได้รับค่าตัว 25% จากการขาย ลัลลานา ตามเงื่อนไขสัญญาอีกด้วย ลัลลานา เขาได้มีส่วนร่วมในรายการ เอฟเอ ยูธ คัพ กับสโมสร เซาแธมป์ตัน ในฤดูกาลที่ 2004 - 2005 และ 2005 - 2006 ซึ่งพวกเขาสามารถผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศและรอบรองชนะเลิศตามลำดับ



พนันบอลออนไลน์



เซาแธมป์ตัน ปี 2006 - 2014


อดัม ลัลลานา เขาได้ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่อเดือน กรกฏาคม ปี ค.ศ. 2006 และได้รับโอกาศลงสนามเป็นเกมแรกเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2006 ซึ่งในเกมนั้นพวกเขาสามารถเอาชะทีม เยโอวิล ทาวน์ 5-2 ในรายการ ลีก คัพ และต่อมาในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2006 เขาได้ต่อสัญญาฉบับให่มกับที่ยาวไปถึงเดือน ธันวาคม ค.ศ. 2009 โดยในวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 2007 เขาถูกยืมตัวให้ไปช่วยทีม บอร์นมัธ เป็นเวลาหนึ่งเดือน พนันบอลออนไลน์ และเมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 2008 เขาได้ปลดล็อคประตูแรกของตัวเองได้สำเร็จซึ่งเป็นเกมที่พบกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในศึก แชมเปี้ยนชิพ หลังจากนั้นในฤดูกาล 2008 - 2009 เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีม และได้รับการต่อสัญญาเพิ่มออกไปอีก 3 ปี เมื่อฤดูกาลที่ 2009 - 2010 เขายิงไป 20 ประตูในทุกรายการให้กับทีม เซาแธมป์ตัน โดยที่ประตูที่ 20 เกิดขึ้นในวันสุดท้ายของซีซั่นในนัดที่พบกับ เซาธ์เอน ยูไนเต็ด และเขาได้ทำสถิติด้วยการเป็นมิดฟิลด์ของสโมสร เซาแธมป์ตัน ที่ทำประตูได้ 20 ลูกในฤดูกาลเดียว นับตั้งแต่ แมทธิว เลอ ทิสซิเออร์ ทำไปได้ 30 ลูกในฤดูกาล 1994 - 1995 เมื่อวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 2011 ลัลลานา ได้รับการขยายสัญญาออกไปอีกยาวจนถึงฤดูร้อนปี 2015 และเขายังมีชื่อติดอยูในทีมยอดเยี่ยมของ ลีก วัน ประจำฤดูกาลที่ 2010 - 2011 หลังจากที่เขาซัดไป 11 ประตู




พนันบอลออนไลน์



เขาสามารถยิงประตูได้ในแมตช์เปิดฤดูกาล 2011 - 2012 ด้วยการเอาชนะทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-1 ที่สนาม เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นการทำลายคำสาปที่มา 12 ปีของสโมสร เซาแธมป์ตัน ที่ไม่สามารถเก็บชัยในวันเปิดสนามได้ และเขายังสามารถพาทีมชนะ 7 นัดในเกมลีกติดต่อกัน ซึ่งในตอนนั้นเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี แต่ก็ต้องเสียไปให้กับ ริคกี้ แลมเบิร์ต เพื่อนร่วมทีมของเขา หลังจากที่เขาพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จในปี 2012 - 2013 ลัลลานา เขาสามารถยิงประตูแรกในศึก พรีเมียร์ ลีก ในเกมที่บุกไปชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 ซึ่งในซีซั่นเดียวกันเขาสามารถยิงประตูที่ 50 ให้กับสโมสร ในแมตช์ที่เอาชนะ เรดดิ้ง 2-0 ต่อมาในวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 2013 เขาได้รับการต่อสัญญาเพิ่มอีก 5 ปี ซึ่งในเกมที่ เซาแธมป์ตัน เอาชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 4-1 ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 ลัลลานา พาบอลมากว่า 30 หลา และเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ถึง 5 คน ก่อนที่เขาจะลากบอลไปในกรอบเขตโทษ และยิงบอลผ่านมือของ สตีฟ ฮาร์เปอร์ นายทวารของ ฮัลล์ ซิตี้ เข้าไปอย่างสวยสดงดงาม



พนันบอลออนไลน์



สโมสรลิเวอร์พูล ปี 2014 - ปัจจุบัน


ในวันที่ 1 กรกฏาคม ค.ศ. 2014 ลัลลานา ได้เซ็นสัญญาร่วมทัพ "หงษ์แดง" ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,390 ล้านบาท) ซึ่งเขาเลือกสวมเสื้อหมายเลข 20 เช่นเดียวกับตอนที่เขาอยู่กับ เซาแธมป์ตัน และในการขายครั้งนี้ทีม บอร์นมัธ จะได้รับเงิน 6.25 ล้านปอนด์ (ประมาน 347 ล้านบาท) ตามเงื่อนไขสัญญาของเขาตั้งแต่เข้าร่วมทัพ "นักบุญ" ตั้งแต่เขาอายุ 12 ปี เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ทางสโมสรลิเวอร์พูลได้ออกมายอมรับว่า ลัลลานา ได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ในขณะฝึกซ้อมร่วมกับทีมที่ เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา และเขาต้องพักยาวกว่า 6 สัปดาห์ และนั่นทำให้เขาพลาดเกมเปิดสนามในซีซั่น 2014 - 2015 กับการพบทีมต้นสังกัดเก่าอย่าง เซาแธมป์ตัน โดยเกมแรกที่เขาลงสนามอย่างเป็นทางการให้กับ ลิเวอร์พูล เกิดขึ้นในเกมที่ 4 เมื่อวันที่ 13 กันยายน ด้วยการเป็นตัวสำรองเขาถูกเปลี่ยนลงมาแทน ราฮิม สเตอร์ลิง ในนาทีที่ 61 ซึ่งในนัดนั้นทีมได้พ่ายคาบ้านให้กับ แอสตัน วิลล่า และประตูแรกในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ของเขาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ซึ่งนัดนั้น ลิเวอร์พูล ได้เปิดสนาม แอนฟิลด์ เอาชนะทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 ก่อนที่เขาจะมาซัดประตูที่ 2 ให้กับลิเวอร์พูล ในเกมที่ถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ในวันที่ 2 ตุลาคม หลังจากนั้นต่อมาราวๆอีก 4 สัปดาห์ เขาได้ยิงเบิ้ลคนเดียวไป 2 ประตู ทำให้ทีมเอาชนะ สวอนซี ซิตี้ 4-1 ณ สนาม แอนฟิลด์ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม














พนันบอลออนไลน์

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์

ประวัติของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์





พนันบอลออนไลน์


ข้อมูลนักเตะ


ชื่อเต็ม บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์


วันเกิด 1 สิงหาคม ค.ศ. 1984 (อายุ 30 ปี)


สถานที่เกิด เมืองโคลเบอร์มัวร์ ประเทศเยอรมันตะวันตก


สัญชาติ เยอรมัน


ส่วนสูง 183 เซนติเมตร


ตำแหน่ง กองกลาง


สโมสรปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1984 ในปัจจุบันเขาได้เล่นให้กับทีมชาติ เยอรมันนี และสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลใน พรีเมียร์ลีก แห่งเกาะอังกฤษ โดยที่ก่อนหน้านั้นเขาได้เล่นให้กับทีม บาเยิร์น มิวนิก ทีมยักษ์ใหญ่จาก บุนเดส ลีกา เยอรมนี มาอย่างยาวนาน ชไวน์ สไตเกอร์ มีฉายาหรือชื่อเล่นว่า "ชไวนี่" โดยเขาเล่นในตำแหน่งกองกลาง และสามารถโยกไปเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนกลาง นอกจากนนี้เขายังรับหน้าที่เป็น รองกัปตันทีม บาเยิร์น มิวนิก ร่วมกับ ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมตัวจริงและยังเป็นเพื่อนร่วมสโมสรและทีมชาติเยอรมันอีกด้วย


พนันบอลออนไลน์


เส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเขา


สโมสรบาเยิร์น มิวนิก

ฤดูกาลที่ 2002-2004 ชไวนี่ เขาได้เซ็นสัญญากับสโมสร บาเยิร์น มิวนิก เป็นผู้เล่นทีมชุดเยาวชนเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม ค.ศ. 1998 และการเล่นของเขาก็ได้ผ่านเกณฑ์การเล่นของสโมสร บาเยิร์น มิวนิก ในชุดเยาวชน สไตเกอร์ เขามีความสามารถในการเล่น สกี เขาจึงต้องเลือกตัดสินใจว่าเขาจะเป็นนักสกีมืออาชีพ หรือจะเป็นหนึ่งในนักฟุตบอล และเขาก็ได้ตัดสินใจเลือกการเล่น ฟุตบอล แทน สกี ต่อมาเขาก็ได้รับรางวัลการแข่งขันชิงแชมป์ เยาวชนเยอรมันในเดือน กรกฏาคม ค.ศ. 2002 ชไวน์สไตเกอร์ เขาเป็นกองกลางที่สามารถเล่นเป็นตนบนด้านขวาได้ ซึ่งเขามีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม และเชี่ยวชาญการเลี้ยงบอลหนี กองกลาง และ กองหลัง ของทีมฝ่ายตรงข้าม ชไวนี่ เขายังเก่งในทางด้านการยิงลูกจุดโทษ โดยส่วนใหญ่เขามักจะยิงเข้าเป็นประจำ และเขายังสามารถเล่นเป็นกองกลางตัวรับ หรือเป็นคนที่คอยจ่ายบอลให้กองหน้าเพื่อนร่วมทีม ในระหว่างการปรากฏตัวของเขา ใน 11 ตำแหน่งที่เขาเล่น หลังจากเพียงสองช่วงการฝึกอบรมกับทีมเป็นครั้งแรก โดยมีผู้จัดการทีมในตอนนั้นคือ อ็อตมาร์ ฮิดฟิลด์ ซึ่งเขาคอยให้โอกาศ ชไวน์สไตเกอร์ ในฐานะผู้เล่นตัวสำรองในช่วงครึ่งหลังในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ ในนัดที่พบกับที่ เอซี มิลาน ในเดือน พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 โดยเขาเป็นนักฟุตบอลเยาวชนคนแรกในปี ค.ศ. 2002 ที่ได้ลงเล่นในศึก แชมเปี้ยนลีกส์ ซึ่งในแมตช์กับทีม เอฟซี เลนส์ เขาได้จ่ายบอลให้กับกองกลางรุ่นพี่นั่นก็คือ มาร์คัส ฟูลเลอร์ ทำประตูให้ทีมเอาชนะ เอฟซี เลนส์ 3-1 และต่อมาในเดือน ธันวาคม เขาก็ได้จรดปลายปากกา เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับทีม บาเยิร์น มิวนิก ซึ่งในตอนนั้นเขาได้ลงเล่นให้กับบาเยิร์นไป 14 เกม ก่อนที่จะปิดฤดูกาล 2002-2003 และต่อมาในฤดูกาล 2003-2004 ชไวน์สไตเกอร์ ได้ลงเล่นไป 26 นัด และได้ประเดิมประตูแรกให้กับบาเยิร์น ในนัดที่พบกับ โวล์ฟบวร์ก ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2003


พนันบอลออนไลน์


ฤดูกาลที่ 2005 - 2015 ในฤดูกาลที่ 2005-2006 บาเยิร์น มิวนิก ได้เปิดตัวผู้จัดการทีมคนใหม่คือ เฟลิกซ์ มากัท ซึ่งเขาได้เรียกใช้งาน ชไวนี่ มาเป็นนักเตะคนแรกของเยาวชน ที่ได้ลงเล่นในนัดที่พบกับ โบรุสเซีย มึนเซนกลัดบัค และในนัดสุดท้ายของซีซั่น ชไวน์สไตเกอร์ ได้ทำประตูในนาทีที่ 48 ทำให้บาเยิร์นเสมอกับ ดอร์ทมุนต์ไป 3-3 ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล และได้เป็นแชมป์ บุนเดสลีกา และ เดเอฟเอโพลคา และในฤดูกาลนี้ ชไวน์สไตเกอร์ ทำประตูไปได้ 3 ลูก จากการลวเล่น 42 นัด



พนันบอลออนไลน์


ต่อมาในสามฤดูกาลจนถึงสิ้นปี 2007-2008 ชไวน์สไตเกอร์ได้ลงเล่นให้กับทีมไป 135 ครั้ง ในการแข่งขันทั้งหมดของบาเยิร์น รวมทุกถ้วย (ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ ,บุนเดสลีกา และถ้วยอื่นๆ ภายในประเทศ) และเขายิงไปได้ 10 ประตูในทุกรายการ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2008 ชไวนี่ ติดอันดับรายชื่อผู้ทำประตูของฤดูกาล 2008-2009 โดยในซีซั่นนี้เขาทำไป 12 ประตู และในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2010 เขาได้เซ็นสัญญาต่อไปกับทีมต้นสังกัดจนถึงปี ค.ศ. 2016 ในวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 2012 ชไวน์สไตเกอร์ ในนัดที่ 2 ที่ต้องพบกับ เรอัล มาดริด ผลออกมาเสมอกันไป 2-2 และต้องตัดสินด้วยการดวลลูกโทษ ที่จุดโทษ และเขาได้ยิงเป็นคนสุดท้ายช่วยให้ทีม บาเยิร์น มิวนิก ชนะจุโทษไป 3-1 และนัดสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ ซึ่งเป็นรอบชิงชนะเลิศที่ต้องพบกับเชลซี ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งผลในตอนนั้นเสมอกันอยู่ที่ 1-1 และต้องตัดสินแชมป์ด้วยการยิงจุดโทษ ชไวน์สไตเกอร์ยิง ปีเตอร์ เช็ก นายทวารของเชลซีไม่สามารถป้องกันเอาไว้ได้ ทำให้ทีมชนะไปได้ 4-3 ได้คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ ไปครองได้สำเร็จ


พนันบอลออนไลน์



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

และเมื่อได้สิ้นสุดฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล และเป็น เยอรมนี ได้ครองแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 4 และเป็นทีมชาติจากยูโรปทีมแรก ที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกในทวีปแอฟริกาใต้ ฟิลปป์ ลาห์ม ซึ่งเป็นกัปตันทีมได้ประกาศอำลาทีมชาติ และก็เป็น ชไวน์สไตเกอร์ ที่ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งนี้แทน และได้ลงเล่นให้กับทีม บาเยิร์น มิวนิก เป็นฤดูกาลสุดท้าย และเมื่อสิ้นสุดปี 2014-2015 ที่บาเยิร์นได้แชมป์บุนเดสลีกาอีก 1 สมัย บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ก็ได้ย้ายมายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 14.4 ล้านปอนด์ (ประมาน 700 ล้านบาท) และได้เซ็นสัญญา 3 ปี แม้เขาจะมีอายุ 31 ปีแล้วก็ตาม โดยย้ายมาพร้อมกับ มอร์แกน ชเนร์แดร์แล็ง นักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส ที่ย้ายมาจากสโมสร "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน พร้อมๆกัน


พนันบอลออนไลน์


ทีมชาติเยอรมัน


สำหรับในนามทีมชาติ เยอรมัน ของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เขาติดทีมชาติครั้งแรกในชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี และได้ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 2004 ในนัดอุ่นเครื่องกับทีมชาติ ฮังการี และหลังจากนั้น เขาได้กลายเป็นกำลังหลักของทีมชาติที่จะขาดเขาไปม่ได้ในทุกการแข่งขัน  ในปัจจุบัน บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ติดทีมชาติไปทั้งหมด 99 นัด ยิงไปได้ 24 ประตู ชไวนี่ ได้แสดงความสามารถในเชิงลูกหนังของเขาออกไปให้ทุกคนเห็นแล้ว เขาได้ประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับสโมสร บาเยิร์น มิวนิก และได้ครองแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 เป้าหมายต่อไปของเขาก็คงน่าจะเป็น การที่เขาจะพาทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จ เหมือนกับที่เขาได้พาทีม บาเยิร์น มิวนิก และ ทีมชาติเยอรมัน ของเขประสบความสำเร็จมาแล้ว ซึ่งเขาได้เตรียมบินมาค้าแข้ง นอกประเทศเป็นครั้งแรก หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้บรรลุข้อตกลงกับทีม บาเยิร์น มิวนิก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 11 กรกฏาคม ค.ศ. 2015 โดยรอเพียงแค่ผลการตรวจร่างกาย และข้อตกลงส่วนตัว เท่านั้น















พนันบอลออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ ฮวน มาต้า

ประวัติของ ฮวน มาต้า





พนันบอลออนไลน์ 



ข้อมูลผู้เล่น


ชื่อเต็ม ฮวน มานูเอล มาต้า การ์เซีย


วันเกิด 28 เมษายน ค.ศ. 1988 (อายุ 27 ปี)


เกิดที่ เมืองบูร์โกส ประเทศสเปน


ส่วนสูง172 เซนติเมตร


เท้าที่ถนัดเท้าซ้าย


ตำแหน่ง ปีกซ้าย ปีกขวา


สโมสรปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


หมายเลขเสื้อ เบอร์ 8


ประวัติและเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ


ฮวน มาต้า เขาได้เกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1988 และเขาได้เติบโตมาในเมืองบูร์โกสซึ่งเป็นเมืองอยู่ในประเทศสเปน และเขาเป็นนักเตะของสโมสรเชลซีโดยเล่นเขาเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ซึ่งมาต้าย้ายมาจากสโมสรบาเลนเซีย และได้มาอยู่กับเชลซีด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ และเมื่อวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2014 เขาก็ได้ย้ายมาร่วมทัพกับทีม "ปีศษจแดง" แมนฯยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 37.1 ล้านปอนด์ พร้อมกับการผ่านการตรวจร่างกายและเขาก็ได้ใส่เบอร์ 8 แทนทางด้าน แอนเดอร์สัน ที่ย้ายไปอยู่กับ ฟิออเรนติน่า ในลีกกัลโซ่เซเรียอา ที่อิตาลี ด้วยการยืมตัว

พนันบอลออนไลน์ 

มาต้า เป็นลูกชายของ ฮวน อดีตนักฟุตบอลอาชีพที่เล่นให้กับ บูร์โกส และ ซาลามังกา ฮวน จูเนียร์ เริ่มการเล่นฟุตบอลอาชีพโดยการเล่นอยู่ในอคาเดมี่ของ เรอัล มาดริด ในตำแหน่งกองหน้า แต่เขาก็ได้ย้ายไปอยู่กับทีม บาเลนเซีย ในช่วงหน้าร้อนปี ค.ศ. 2007 ในฤดูกาลแรกกับทีมค้างคาว เขาได้ลงเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในฐานะตัวสำรองในเกมแชมเปี้ยนลีกส์ ช่วงท้ายฤดูกาล และเขาได้ทำประตูในศึก โกปา เดล เรย์ นัดชิงชนะเลิศ และได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร หลังจากการเล่นในถิ่น เมสตายา 4 ปี เขายิงไป 43 ประตู จากการลงเล่น 179 เกม มาต้า ได้พูดคุยกับ อังเดร วิลลัช โบอัช และยังเชื่อว่า สแตมฟอร์ด บริดจ์ มันคือสถานที่ที่เหมาะกับเขาสุดๆละ ถีงแม้ว่าจะไม่ได้มีสโมสรอื่นมาสนใจก็ตาม มาต้าอยู่ในทีมชาติสเปนชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ด้วย หลังจากที่เขาติดทีมชาติครั้งแรกในปี 2009 เขามีโอกาศได้ลงไปสัมผัสบบรรยากาศแค่ครั้งเดียวในทัวร์นาเมนต์นั้น โดยถูกส่งลงไปเป็นตัวสำรองแทนที่ เฟร์นันโด ตอร์เรส และตอนที่เขาย้ายมาเชลซี เขาได้ติดทีมชาติไป 12 ครั้ง และเขาก็ยังเคยได้เล่นให้กับชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ของทีมชาติสเปนด้วย และได้มีโอกาศเป็นกัปตันทีมชุดแชมป์ยูโรปี 2012 อีกด้วย และเขายังได้ถูกรับเลือกให้ติดทีมยอดเยี่ยมในทัวร์นาเม้นนั้นด้วย


พนันบอลออนไลน์ 


มาต้า เขาเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีม เรอัล โอเบียโด้ ซึ่งนั่นเป็นสโมสรที่พ่อเขาได้เคยเล่นให้มาก่อน และมาต้าเขาก็ได้ค้าแข้งอยู่ที่นั่น 3 ปี ก่อนที่เขาจะย้ายไปฝึกซ้อมกับอคาเดมี่ของ เรอัล มาดริด ที่มีชื่อว่า ลา ฟาบริก้า เมื่อเขาอายุได้ 15 ปี จากนั้นในฤดูกาล 2006-2007 เขาก็ได้ยกระดับตัวเองขึ้นมาเตะให้กับ เรอัล มาดริด เบ และได้สวมเสื้อเบอร์ 34 กับทีมชุดใหญ่ในช่วงจบฤดูกาล มาต้าเขาเป็นรองดสวซัลโวอันดับที่ 2 โดยรองลงมาจาก อัลบาโร่ เนเกรโด้ ที่ยิงไปทั้งหมด 18 ประตูในซีซั่นนั้น

ด้วยฟอร์มมการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขา จึงทำให้เขาได้มีรายชื่อติดทีมชาติครั้งแรกในนัดอุ่นเครื่องกับทีมชาติชิลี เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 แต่ในตอนนั้นเขาไม่มีโอกาศได้ลงสนาม จากนั้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 2009 เขาได้มีโอกาศลงไปสัมผัสเกมกับทีมชาติเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นแมตช์รอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 ที่พบกับ ตุรกี โดยเขาถูกส่งลงมาแทน ดาวิด บีย่า ในนาทีที่ 63 มาต้าเขาได้ประเดิมประตูแรกให้กับทีมชาติ เมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 2009 ในเกมที่ชนะ เอสโตเนีย 3-0 และได้คว้าตั๋วไปเตะฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่แอฟริกาได้สำเร็จ จากนั้นด้านความสำเร็จกับทีมชาติครั้งแรกนั่นก็คือเขาได้พาทีมชาติคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 และหลังจากนั้น 2 ปี เขาและทีมชาติก็ได้ถือถ้วยแชมป์ยูโร 2012 อีกด้วย


พนันบอลออนไลน์ 


มาต้ามีค่าฉีกสัญญากับทีมราชันชุดขาวในช่วงท้ายของฤดูกาล ทำให้บาเลนเซียได้ดึงตัวเขามาร่วฃฃมทีมในช่วงเดือน มีนาคม ค.ศ. 2007 โดยเขาจะพร้อมลงเล่นให้กับทีมบาเลนเซียในช่วง 2007-2008 และในฤดูกาลดังกล่าวเขาได้ถูกโหวตจากแฟนๆให้ได้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี หลังจากมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมได้แชมป์ โกปา เดล เรย์ ด้วยการที่เขาซัดไปคนเดียว 2 ประตูในนัดนั้นที่พบกับทีม บาร์เซโลน่า และหลายฤดูกาลต่อมาเขาก็ได้พัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เขาได้กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของทีม บาเลนเซีย จนทำให้มีสโมสรยักษ์ใหญ่หลายทีมในยุโรปจ้องจะคว้าตัวเขาไป และสุดท้ายก็เป็นทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซีที่ได้คว้าตัวเขาไปด้วยค่าตัว 23.5 ล้านปอนด์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2011 ซึ่งเขาก็ได้สวมเสื้อหมายเลข 10 หลังจากที่ ยอสซี่ เบนายูน ที่สวมหมายเลขนี้อยู่แต่ก็ยอมยกให้


มาต้าเขาประเดิมสนามครั้งแรกกับเชลซีครั้งแรกในนัดที่พบกับ นอริช ซิตี้ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2011 โดยการลงมาเป็นตัวสำรองแทน ฟลอร็อง มาลูด้า ในนาทีที่ 68 และเขาก็ได้ทำประตูในช่วงทดเวลานาทีที่ 11 เป็นประตูสุดท้ายช่วยให้ทีมฝังนอริชไป 3-1 ผลงานของเขากับทีมต้นสังกัดถถือว่าดูดีมากในฤดูกาลแรก หลังจากที่เขาพาทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 2 รายการนั่นก็คือ เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ โดยในนัดชิงถ้วยยุโรปเขาเป็นคนแอสซิสให้ ดิดิเย่ ดร็อกบา โขกเป็นประตูตีเสมอ บาเยิร์น มิวนิก ในนาที่ที่ 88 จากลูกคอนเนอร์ และก็จบด้วยการดวลจุดโทษในแมตช์นั้นและก็เป็นเชลซีเอาชนะไปได้ในการดวลจุดโทษ และจากการเล่นที่โดดเด่นของเขาทำให้แฟนๆได้โหวตให้เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร และในฤดูกาลต่อมาก็ยังถือว่าเป็นฤดูกาลที่ดีสำหรับเขา แม้เชลซีจะต้องตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ ไม่มีโอกาศได้เข้าไปป้องกันแชมป์ แต่พวกเขาก็ยังสามารถคว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก มาครองได้สำเร็จ และมาต้าก็ได้คว้ารางวัลยอดเยี่ยมของสโมสรอีกครั้ง และถือว่าเขาได้รางวัลนี้ไป 2 ปีติดกันเลยทีเดียว เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงคือได้กุนซือคนเดิมอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ได้กลับมาคุมทีมอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้โอกาศลงสนามของเขาลดลงเนื่องจากมูรินโญ่จะให้โอกาศกับ ออสการ์ มากกว่า และจากการที่เขานั่งม้านั่งสำรองจนรากงอก เลยมีข่าวออกมาอยู่บ่อยๆว่าเขาต้องการจะย้ายทีม และเมื่อวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 2014 มูรินโญ่ ก็ออกมาให้ข่าวเองว่ายอมรับข้อตกลงจากทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการเซ็นสัญญา ฮวน มาต้า และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นนักเตะหน้าใหม่ของทีมปีศาจแดง ด้วยค่าตัวที่สูงที่สุดของสโมสร


พนันบอลออนไลน์ 


สิ่งที่ทำให้มาต้ากลายเป็นขวัญใจของแฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ไล่ล่าประตู -มันอาจจะใช้เวลานานกว่า 10 เกมที่เขาจะประเดิมประตูแรกให้กับแมนฯยูไนเต็ด นับจากที่เขาย้ายมาแต่ในฤดูกาลนั้นเขาก็สามารถทำไปได้ 6 ประตูและเมื่อเริ่มต้นฤดูกาล 2014-2015 เขาก็ได้ซัดไป 2 ประตู จากการลงเล่นใน 4 แมตช์ และนั่นก็ทำให้รู้ว่าการทำประตูของเขาไม่เป็นสองรองใคร

สัมผัสแห่งความเหนือชั้น -ในเกมกับทีม ฟูแล่ม ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด เมื่อเดือนกุมุภาพันธ์ ค.ศ. 2014 เวย์น รูนี่ย์ ได้โยนบอลโด่งมาจากฝั่งขวาและดูเหมือว่าบอลจะลอยข้ามหัวมาต้าอยู่แล้ว และผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะปล่อยให้เป็นลูกออกหลัง แต่มาต้าเขาไม่ทำแบบนั้น เขาจ้องบอลที่ลอยโด่งมาแล้วปล่อยให้มันข้าวหัวไหล่ก่อนที่เขาจะเหยีดขาออกไปดูดบอลลงด้วยความนิ่มนวล

พนันบอลออนไลน์ 

ความเป็นคนดี -ทุกๆคนต่างก็รู้อยู่แล้วว่ามาต้ามีความเก่งกาจแค่ไหนเมื่อเขาอยู่ในสนาม แต่ผู้คนในรอบๆสนามรอบไปถึงสต๊าฟโค้ช ถือว่าโชคดีที่ได้รู้จักกับมาต้าเพราะเขาก็เป็นคนที่สุดยอดเมื่ออยู่นอกสนามด้วย เขาเป็นคนที่เป็นมิตรกับทุกคน ดาวเตะชาวสแปนิชรายนี้เป็นคนที่ยิ้มมง่ายแบละเขามักจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอ และยังมีความเฉลียวฉลาดสังเกตุได้ง่ายๆจากการให้สัมภาษณ์ในหลายๆครั้ง


ความสนิทสนมกับ ดาวิด เด เคอา -มิตรภาพของนักเตะ 2 คนนี้เห็นได้ชัดผ่านทางโลกโซเชียล ทั้งจากเจ้าตัวเองและจากที่ปฟนๆทำขึ้นมาให้ และในนัดนั้นที่พบกับทีมนิวคาสเซิ่ล มาต้าได้วิ่งมาหา เด เคอา ที่ม้านั่งสำรองหลังจากที่เขายิงฟรีคลิกเข้าและนี่ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดี

คำพูดที่ฉลาด -ไม่ว่าเขาจะพบเจอกับผลการแข่งขันเช่นไร หรือไม่ว่าเขาจะอยู่ส่วนไหนของโลก มาต้าเขามักจะอัพเดทความเคลื่อนไหวของเขาผ่านทางบล็อครายสัปดาห์ของเขาอยู่เสมอ โดยผ่านทางเว็บไซต์ของเขาเอง และทาง ManUtd.com ถือเป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจะตั้งแต่เขาเป็นนักเตะของเชลซีแล้ว ถือว่านี่เป็นวิถีกับแฟนๆช่วยให้สนิทกันมากขึ้น


คนที่อยากรูอยากเห็น -หากคุณได้ติดตามมาต้าจากทางโซเชีลต่างๆของเขา คุณจะรู้ทันทีเลยว่าเขาไม่ได้สนใจเพียงแค่ฟุตบอลอย่างเดียวเท่านั้น "ผมเป็นคนอยากรู้อยากเห็น" ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกไว้ "ผมมีความสุขกับการทำอะไรหลายๆอย่าง ผมชอบอ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ และยังชอบออกไปเดินเล่นรอบๆเมืองด้วย ดังนั้นภาพถ่ายผ่านทางโซเชียลของเขาจึงมีแต่รูปเซลฟี่กับเพื่อนๆร่วมทีมทั้งนั้น และก็ยังมีภาพบรรยากาศต่างๆในเมืองแมนเชสเตอร์ หมู่บ้านเชสเชียร์ หรือคลองบริดจ์วอเตอร์อีกด้วย และในตอนที่เขามีโอกาศได้ไปเยือนที่พิพิธภัณฑ์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาก็ได้บอกเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสโมสร









พนันบอลออนไลน์ 


วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ เฟร์นันโด ยอเรนเต้

ประวัติของ เฟร์นันโด ยอเรนเต้







พนันบอลออนไลน์




ข้อมูลส่วนตัวของนักเตะ

ชื่อเต็ม เฟร์นันโด จาเวียร์ ยอเรนเต้ ตอร์เรส


วันเกิด 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1985 (30ปี)


สถานที่เกิด เมืองปัมโปลนา ประเทศสเปน


ส่วนสูง 195 เซนติเมตร


เท้าที่ถนัด เท้าขวา


ตำแหน่ง กองหน้า


สโมสรปัจจุบัน ยูเวนตุส



ประวัติการค้าแข้ง


เฟร์นันโด จาเวียร์ ยอเรนเต้ ตอร์เรส เขาเกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1985 และเขามีชื่อเล่นว่า เอลเรย์ เลออน เป็นักเตะชาวสแปนิช เล่นให้กับทีม ยูเวนตุส ในศึกกัลโว่ เซเรีย อา อิตาลี โดยเล่นเป็นกองหน้า โดย ยอเรนเต้เขาเริ่มการเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีม แอธแลนติก บิลเบา วิธีการของเขาผ่านเยาวชนแถวต่างๆ รวมแล้วกลายเป็นหนึ่งผู้เล่นที่น่ารังเกียจที่สุดในสโมสรของช่วงทศวรรษนั้น โดยการเปิดตัวกับสโมสร ฤดูกาล 2005 เขาสมารถยิงให้กับ แอธฯ บิลเบา ไป 29 ประตูในซีซั่นนั้น และในการแข่งขันทั้งหมดทุกรายการในปี 2011-2012 และเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นตำนาน บิลบาว ในปี 2013 เขาได้เซ็นสัญญากับยูเวนตุส ทีมยักษ์ใหญ่จาก ศึกเซเรียอาใน อิตาลี ในปีแรกของเขา สเปนระหว่างประเทศตั้งแต่ปลายปี 2008 ยอเรนเต้ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม โดยเขาได้รับรางวัล ฟุตบอลโลก 2010 และ ฟุตบอลยูโร 2012


ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจเกิดอยู่ในช่วงอพยพ แต่เขาก็ได้เติบโตขึ้นมาในแถมเมืองลินคอน  เดอซาโต ในราโรจาร์ และเขาได้เข้าร่วมเยาวชนของ แอธฯ บิลเบา ในปี 1996 ตอนนั้นเขาอายุ 11 ปี


แอธแลนติกบิลเบา
ยอเรนเต้ใช้เวลาหลายฤดูกาลในระดับจูเนียร์ต่างๆ ของสโมสรในปี 2003 ย้ายไปซีดีบาสโกเนียของดิวิชั่นแตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้านเยาวชนและกีฬายังมีชมรมป้อนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 เขาค่อยๆปูทางของเขาสำหรับการส่งเสริมการขายบิลเบา - ทีมสำรองของแอ ธ เลติก - ในกันดาดิวิชั่นบี

พนันบอลออนไลน์

ในช่วงหลังจากสี่คะแนนเป้าหมายของ B ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลยอเรนเต้ได้รับรางวัลที่มีการขยายสัญญาจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2008 เมื่อวันที่ 16 เดือนมกราคมปี 2005 เขาทำทีมแรกของเขา และลาลีกา เปิดตัวครั้งแรกใน 1- 1 วาดบ้านกับอาซีดีเอสปันญอลสามวันต่อมาในการแข่งขันฟุตบอลโคปาเดลเรย์กับ ดาวยิง ยูดีลันซาโรเตเขายิงแฮตทริกในชัยชนะ 6-0 และจะไปในลักษณะทั้งหมด รวมแล้วแต่ห้า 19 เกมลีกที่เหลืออยู่ในขณะที่สามคะแนนเป้าหมายและยังมีในการแข่งขันถ้วยในประเทศสี่และยูฟ่าคัพรอบของ 32 เกมกับเอฟเคออสเตรีย

ก่อนที่จะมีการรณรงค์ 2005-06 จำนวนทีมยอเรนเต้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก 32 จำนวนถึง 9 เขายิงในวันเปิด, บาสก์ดาร์บี้ชนะ 3-0 เรอัลแต่ตลอดฤดูกาลพบเป้าหมายยาก ที่จะมาด้วยซึ่งอาจจะนำมาประกอบเป็นส่วนหนึ่งกับชุดของการบาดเจ็บที่หัวเข่ารวมทั้งสายพันธุ์กระเพาะอาหารและลำไส้และได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อ.เขาจบฤดูกาลด้วยเพียงสี่เป้าหมายสองในลีกและเท่า ในการแข่งขันฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลฮอสปิตาเลย์.

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2006 ยอเรนเต้ เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับแอธ เเลติก จนถึงเดือนมิถุนายนปี 2011 ซึ่งรวมถึงข้อซื้อออกมาจากระหว่าง 30 และ 50 ล้านบาท เขาเริ่มต้นฤดูกาลที่เนื้อหาของสโมสรกองหน้าสี่ทางเลือกหลัง อริตซ์อา โจเซปเอ็กเบร์เรียและมีประสบการณ์อิสมาเอลอูเซียสรูปแบบที่น่าสงสารนักกีฬาและการขาดเป้าหมายนำไปสู่การฝึกแฟริกซาเลียนเจอส์หมุนผู้เล่นที่ช่วยให้ยอเรนเต้จะบังคับทางของเขากลับเข้ามาในด้าน และยอเรนเต้เขาสิ้นสุดแคมเปญที่มีเพียงสองประตูใน 23 นัดแม้ว่าเขาจะทำคะแนนที่สำคัญอย่างหนึ่งในนาทีปิดของ 1-1 บาเลนเซียที่ซีเอฟ

พนันบอลออนไลน์

ในการเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาล 2007-08ยอเรนเต้ทำแต้มหกเป้าหมายเป็นจำนวนมากในฤดูกาลก่อนเกมและอื่น ๆ กับซีดีนูมันเซียในคาร์จาเดลโล่รางวัล ร่างของเขาทำให้เขากลายเป็นกีฬาของทางเลือกอันดับแรกไปข้างหน้าและแม้ว่าเขาจะเริ่มต้นฤดูกาลไม่ดีเขามันจบลงด้วยรวมเป็น 11 กลุ่มเป้าหมายสำหรับด้านที่เสร็จในกลางโต๊ะ นับของเขารวมถึงสี่เป้าหมายในสองเกมกับบาเลนเซียทั้งชัยชนะที่น่าประทับใจและนัดต่อไปกับเอฟซีบาร์เซโลนา เรอัล ซีเอฟและแอตเลติโก้มาดริด

ก่อนที่จะ 2008-09ยอเรนเต้มั่นใจของฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จ ยอเรนเต้ได้กล่าวไว้ว่า"ฉันรู้ว่าฉันมีความสามารถในการทำประตูและมีปีที่ดีและฉันต้องการที่จะเริ่มต้นในระยะนี้ในรูปแบบเดียวกับที่ผมสิ้นสุดวันสุดท้ายใน" เขากล่าวแม้จะมีการเริ่มต้นที่เจียมเนื้อเจียมตัวของทีมในฤดูกาลเขาเป็นตาข่าย ไปได้เพียง14 ประตูในลีกอาาชีพที่ดีที่สุด กับอีกสี่ในถ้วยช่วยให้ทีมงานของเขาถึงขั้นสุดท้ายกับบาร์เซโลนา (1-4 ขาดทุน)

ในฤดูกาล 2009-10ยอเรนเต้อีกครั้งถึงสองร่าง และเขานำเรอร์สทั้งหมดในยูโรป้าลีกเป็นระยะเวลายาวกับแปดเป้าหมายและเพิ่ม 14 ในลีกเป็นเอสเทริ

ก่อนที่จะ 2008-09ยอเรนเต้มั่นใจของฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จ เฟร์นันโดได้บอกว่า"ฉันรู้ว่าฉันมีความสามารถในการทำประตูและมีปีที่ดีและฉันต้องการที่จะเริ่มต้นในระยะนี้ในรูปแบบเดียวกับที่ผมสิ้นสุดวันสุดท้ายใน" เขากล่าวแม้จะมีการเริ่มต้นที่เจียมเนื้อเจียมตัวของทีมในฤดูกาลเขาเป็นตาข่าย ได้ถึง14 ประตูในลีก - อาชีพที่ดีที่สุด - กับอีกสี่ในถ้วยช่วยให้ทีมงานของเขาถึงขั้นสุดท้ายกับบาร์เซโลนา (1-4 ขาดทุน)

ต่อมาในฤดูกาล 20010-11ยอเรนเต้ อีกครั้งถึงสองร่าง โดยที่เขานำเรอร์สทั้งหมดในยูโรป้าลีกเป็นระยะเวลายาวกับแปดเป้าหมายและเพิ่ม ได้อีก14 ในลีกเป็นกีฬาเสร็จในตำแหน่งที่แปด เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2010ยอเรนเต้เป้าหมายแรกของการรณรงค์ 2010-11 ในชนะ 1-0 ที่เอร์กูเลซีเอฟร่างของเขายังคงอยู่ในการแข่งขันต่อไปสิบลีกในขณะที่เขาพบสุทธิเจ็ดครั้งในที่สุดก็จบฤดูกาล รวมไปถึงกับเป้าหมายที่ 18 (19 โดยรวม) เป็นกีฬาที่มีคุณภาพเพื่อยูโรป้าลีก

พนันบอลออนไลน์

ในเดือนมกราคมกับเดือนกุมภาพันธ์ 2012, ในสองเกมออกไปแยกจากกันโดยเฉพาะสี่วันยอเรนเต้คะแนนห้าเป้าหมายเขาเริ่มต้นด้วยหมวกเคล็ดลับในการเอาชนะ 3-2 ราโย่บาเยกาโน่เพิ่มอีกสองในแอธเลติก 2-1 ชนะเหนือซีดีมิรานเดสในรอบรองชนะเลิศถ้วยสเปนในอีกสองนัดทั้งที่บ้านเขาเป็นตาข่ายสามมากขึ้นหนึ่งกับเอสปันญ่ในลีกและสองกับมิลานเดส
ยอเรนเต้คะแนนในขาทั้งสองข้างของยูโรป้าลีก 2011-12 รอบของ อันดับที่16 กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นกีฬาที่ได้รับรางวัลทั้งสองเกมและเดินผ่าน 5-3 รวมในรอบต่อไปเขาเป็นตาข่ายเป็นครั้งที่สองเอฟซี ชาลเก้ 04 ในชนะ 4-2 ช่วยให้ทีมในที่สุดก็ถึงขั้นสุดท้าย

ในเดือนสิงหาคม 2012ยอเรนเต้ปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงใหม่กับเลติกบิลเบาเชื้อเพลิงการเก็งกำไรว่าเขาอาจจะออกจากสโมสรหลังจากการสูญเสียดาร์บี้ แมตช์ด้วยสกอร์0-2 ที่เรอัลเมื่อวันที่ 29 กันยายนซึ่งเขาเป็นสายแทนเขา ได้เข้าทะเลาะกับผู้จัดการมาร์เซโลเบลซาร์สองวันต่อมาเขาก็เดินออกมาในช่วงต้นของการฝึกอบรมและถูกส่งไปฝึกซ้อมกับทีมเยาวชนและเป็นผลให้ความสัมพันธ์ของเขากับผู้สนับสนุนของสโมสรและประธานโจโซอูเพิ่มเติมเสื่อมโทรม

ในเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2013,สโมสรแอธเลติกยืนยันว่ายอเรนเต้จะได้รับการพูดถึงการถือครองสัญญากับยูเวนตุสเมื่อวันที่ ยี่สิบเอ็ด21 ผู้อำนวยการกีฬาอิตาเลียน 'จูเซปเป้มารอตตาเปิดเผยว่าเขาเป็น "ในแง่ดีมาก" ที่ผู้เล่นจะเข้าร่วมในวันที่ 1 กรกฎาคมที่มีบิลเบาประธานโจซูอูเชื่อว่าจะไม่เต็มใจที่จะให้เขาออกในเดือนมกราคมย้ายหน้าต่างสามวันต่อมาสโมสรอย่างเป็นทางการลงนามและประกาศว่าเขาจะเซ็นสัญญาสี่ปีในวันที่ 1 เดือนกรกฎาคมเมื่อสัญญาของเขากับบิลเเบาหมดอายุยูเวนตุสยังจ่ายตัวแทนของเขา€3,038,000เฟร์นันโดยอเรนเต้คะแนนเพียงห้าเป้าหมายในการแข่งขันอย่างเป็นทางการ 36 ในปีสุดท้ายของเขากับแอธเลติกเล่นส่วนใหญ่เป็นสำรองสำหรับอดูริส

พนันบอลออนไลน์

ยูเวนตุส

ยอเรนเต้อย่างเป็นทางการกลายเป็นผู้เล่นที่ยูเวนตุสเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2013 หลังจากผ่านทางการแพทย์ที่สโมสรเขาได้รับหมายเลข 14 เสื้อและตาข่ายเป้าหมายแรกของเขาในซีรีเมื่อวันที่ 22 กันยายน เริ่มต้นในบ้านชนะ 2-1 เฮลลาสเวโรนาเอฟซี

ในที่สองและสามที่เคยปรากฏตัวในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกของเขายอเรนเต้จัดการเพื่อหาสุทธิทั้งสองครั้งกับเรอัลมาดริดเวทีกลุ่ม 2013-14 (1-2 ห่างสูญเสียบ้านดึง 2-2) และในวันที่ 1 ธันวาคมเขายิงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บสำหรับเป้าหมายเดียวของเกมที่บ้านกับอูดิเนเซไม่กี่สัปดาห์หลังจากการพูดในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับรากัสเซศต้าเดโลสปอร์ตเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับอดีตผู้จัดการเบวซ่า

ยอเรนเต้ แรกของสองเป้าหมายปี 2014 มาในวันที่ 12 มกราคมคะแนนจากส่วนหัวและจากช่วงใกล้ที่สุดเท่าที่ยูเวนตุสแพ้ 4-1 กายารี่ออกไปเพื่อขยายลีกชนะเลิศวิ่งไป 11 นัด และเมื่อวันที่ 7 เมษายนเ ค.ศ. 2014 เขาตาข่ายทั้งสองของเขา เป้าหมายของทีมในการประสบความสำเร็จในบ้าน 2-0 เอเอสลิวอร์โน่แคลซิโอยืนยันบนสองเสร็จในวันสุดท้ายของฤดูกาลอีกครั้งกับกายารี่เขามีส่วนกับเป้าหมายเป็นเจ้าภาพชนะ ด้วสกอร์ 3-0 ที่จะกลายเป็นทีมที่มีคะแนนมากที่สุดในเซเรียอาเดียวแคมเปญที่ใช้ 102

พนันบอลออนไลน์

ระดับประเทศ

เฟร์นันโด ยอเรนเต้ เป็นตัวแทนของสเปนที่ 2005 ฟีฟ่าเยาวชนชิงแชมป์โลกห้าเป้าหมายของเขาชนะเขาบูตเงินเป็นสองแต้มสูงสุดของการแข่งขัน.เขาได้รับการต่อยอดที่ยังอยู่ภายใต้การคุมทีมชุดอายุไม่เกิน 18 ปีและต่ำกว่าระดับ 19 และเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2008 ในทีมชาติผู้จัดการอาวุโสเซนเตเดลบอสเก้เรียกว่ายอเรนเต้ขึ้นสำหรับการเป็นมิตรกับชิลี.เขาถูกนำตัวในฐานะผู้แทนในนาทีที่ 72 ของการชนะ 3-0.เขาทำประตูแรกของเขา ในชนะ 2-0 มิตรประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 มาจากม้านั่งที่จะทำคะแนนในนาทีที่ 64.หลังจากตาข่าย 14 เป้าหมายสำหรับกีฬาใน 2008-2009 เดบอสเก้ชื่อยอเรนเต้ในทีม ทั้งหมด23 คนของเขาสำหรับถ้วยฟีฟ่าสหพันธ์ 2009 เขาถูกนำมาใช้แทนกับเจ้าภาพแอฟริกาใต้และคะแนนในชัยชนะ 2-0

ในช่วงฤดูกาล 2009-2010 ยอเรนเต้ ไม่ได้เรียกว่าขึ้นครั้งเดียวเดลบอสเก้ได้รับการสนับสนุนอัลบาโรเนเกรโด ไม่ว่าจะอย่างไรจะเลือกสำหรับฟุตบอลโลก 2010 ยังอยู่ในแอฟริกาใต้เป็นกองหน้าตัวเลือกที่สามที่เขาเล่นในการแข่งขันสำหรับแชมป์ในที่สุด 30 นาทีสุดท้ายของ 1-0 รอบของ 16 ชนะกับโปรตุเกส

เมื่อวันที่ 8 เดือนตุลาคม ค.ศ. 2010 ได้รับประโยชน์จากการบาดเจ็บของเฟร์นันโดตอร์เรส,ยอเรนเต้ เริ่มต้นในยูฟ่ายูโร 2012 รอบคัดเลือกกับลิทัวเนียในซารามันก้ามีสองหัว โดยมร- สินทรัพย์ที่แข็งแกร่งของเขา และเขามีส่วนสำคัญในชนะ 3-1 และหลังจากนั้นสี่วันต่อมาแทนเขาทำแต้มชนะกับสกอตแลนด์ 3-2 ในความสำเร็จที่แฮมป์เดนปาร์ค และสุดท้ายเขาได้รับเลือกสำหรับขั้นตอนสุดท้ายในโปแลนด์และยูเครนเป็นสมาชิกกลุ่มที่ไม่ได้ใช้เป็นสเปนชนะในการแข่งขันอีก

เฟร์นันโด ยอเรนเต้ ยอมรับร่วมทีมม้าลายเหมือนฝันที่เป็นจริง

เฟร์นัน อเรนเต้ ศูนย์หน้าของทีม แอธแลนติก บิลเบา เขาได้ออกมายอมรับว่าการที่เขาได้ย้ายไปร่วมทีมกับยูเวนตุสเหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับเขามันเป็นเรื่องที่ดีมากพร้อมยังขอบคุณแฟนบอลและต้นสังกัดเก่าที่คอนสนับสนุนเขาในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาดาวเตะอย่าง เฟร์นันโด ยอเรนเต้ กองหน้าของแอธฯบิลเบา ทีมสโมสรแห่งศึกลาลีกาสเปนออกมากล่าวเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมาว่าเขาอยากขอบคุณต้นสังกัดเก่าและรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ย้ายมาร่วมทัพกับเจ้าม้าลาย"ยูเวนตุส"สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก กัลโซ่เซียเรีย อา หลังจากที่ทีมม้าลายตกลงคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้







พนันบอลออนไลน์

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

ประวัติของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่




พนันบอลออนไลน์


ข้อมูลส่วนตัว


ชื่อเต็ม ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ โกเรย์ยา


วันเกิด 12 มิถุนายน 1992 (23ปี)


สถานที่เกิด เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล


ส่วนสูง 171 เซนติเมตร


เท้าที่ถนัด เท้าขวา


ตำแหน่ง กองกลางตัวรุกและปีก


สโมสรปัจจุบัน ลิเวอร์พูล



ประวัติของนักเตะ


ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ โกเรย์ยาเขาได้เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ในปีคริสศักราช 1992 ณ เมืองริโอเดอจาเนโรในประเทศบราซิลเขาเป็นนักฟุตบอลสายเลือดบราซิลแท้ๆโดยทุกวันนี้เขาค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษให้กับสโมสรลิเวอร์พูลในตำแหน่งกองกลางตัวรุกและปีกฟิลิปเป้ คูตินโญ่นั่นคือผลผลิตชิ้นโบแดงจากศูนย์ค่ายอคาเดมี่ของสโมสรวาสโกดากาม่าที่ให้การดูแลมิดฟิลด์ร่างเล็กรายนี้ตั้งแต่อายุ6 ขวบและโดยพ่อหนุ่มคูตินโญ่ได้ใช้เวลาในการพัฒนาฝีเท้าเกือบเกือบ10ปีc]tก่อนจะฉายแววความเป็นอัจฉริยะลูกหนัง ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับ ทีมวาสโก ดา กาม่า และ ทีมชาติ บราซิล รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และซึ่งในบทบาทหลังดูเหมือนจะเป็นการประกาศศักดาให้โลกรู้ถึงความฉกาจฉกรรจ์ของฝีเท้าหลังจากตะบันแฮตทริคใส่ทีมชาติอิหร่านซึ่งในเกมอุ่นเครื่อง และด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงหาตัวจับยากสำหรับเยาวชนที่มีอายุแค่ เพียง16-17ปีจึงเข้าตาอินเตอร์ มิลานมหาอำนาจลูกหนังของอิตาลีเข้าอย่างจัง

พนันบอลออนไลน์

ปี 2008 อินเตอร์ มิลานพยายามดึงตัวสตาร์บราซิลเข้าถิ่นซาน ชิโร่ด้วยค่าหัวแบบจิ๊บๆที่ 4 ล้านยูโรทว่าล้มเหลวเนื่องจากสโมสรวาสโก ดา กาม่าต้องการเก็บ คูตินโญ่ไว้ใช้งานและค่าตัวที่ได้รับสำหรับดีลครั้งนี้ก็ไม่สมน้ำสมเนื้อแต่ประการใดแต่อย่างไรก็ตามความพยายามของ"เนรัซซูร์รี่"กลับมาสัมฤทธิ์ผลในปี2010ในยุค"เอล ราฟา"ราฟาเอล เบนิเตซที่แท็คทีมกับมัสซิโม โมรัตติประธานสโมสรเดินเกมทาบทามอย่างจริงจังพร้อมการันตีกับคูตินโญ่แต่ว่าจะมีอนาคตภายใต้สโมสรแห่งนี้อย่างแน่นอนและทำให้เจ้าตัวตัดสินใจย้ายสำมะโนครัวจากแดนกาแฟมาอยู่ในอิตาลีในที่สุด

เกมประเดิมสีเสื้อใหม่กับอินเตอร์ มิลานคือแมตช์ยูฟ่าซูเปอร์คัพในช่วงปลายเดือนสิงหาคมปี2010และด้วยการออกสตาร์ทเป็นตัวสำรองในการเจอกับ"ทีมตราหมี"แอตเลติโก มาดริดและมีส่วนร่วมกับศึกแชมป์ชนแชมป์นี้ในช่วง10นาทีสุดท้ายต่อมาเส้นทางในถิ่นซานถิ่นชิโร่ดูเหมือนจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบและเนื่องจากตำแหน่งหรือวิธีการเล่นไปทับกับนักเตะระดับบิ๊กเนมอย่างเวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์จอมทัพชาวฮอลแลนด์และในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังปี 2012 จึงต้องย้ายมาอยู่สเปนให้กับทีมเอสปันญ่อลด้วยสัญญายืมตัว



ช่วงเวลาหกเดือนที่อยู่กับทีมเอสปันญ่อลถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้แข้งบราซิเลี่ยนรายนี้กลับมามีชื่อติดตลาดอีกครั้งหลังจากทำผลงานได้อย่างโดดเด่นให้กับทีมจากแคว้นคาตาลันและโดยเฉพาะลูกฟรีคิกและจังหวะสอดขึ้นไปทำประตูที่ทำได้อย่างเด็ดขาดจนสามารถทำให้เขาซื้อใจแฟนบอลชาวคาตาโลเนี่ยนได้ด้วยระยะเวลาเพียงสั้นๆอย่างไรก็ตามคูตินโญ่เขาเหมือนกลับไปอยู่ในขุมนรกอีกครั้งเมื่อหมดสัญญายืมตัวต้องกลับไปใส่สนับก้นในถิ่นซานซิโร่ด้วยความเบื่อหน่ายและเริ่มหมดคุณค่าในตัวเอง อินเตอร์ จึงสนนราคาประมาน10ล้านยูโรและสำหรับการปล่อยตัวคูตินโญ่เองให้กับที่สนใจ

เมื่อข่าวนี้สะพัดไปที่ตลาดซื้อขายนักเตะลิเวอร์พูลและเซาท์แฮมป์ต้นจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษต่างก็ให้ความสนใจที่จะดึงสตาร์บราซิลไปร่วมแก๊งค์โดย"หงส์แดง"ต้องการเสริมทัพในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกอยู่พอดีและทีมนักบุญก็พึ่งได้เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ที่เป็นนายเก่าของทีมเอสปันญ่อลข้ามแดนมาคุมทีม เซาธ์แฮมป์ตัน จึงจัดการเดินเกมเร่งปิดดีลเป็นการด่วนแต่ทว่าคูตินโญ่เลือกลิเวอร์พูลเพราะมีลูคัส เลว่าคนบ้านเกิดเดียวกันน่าจะช่วยในเรื่องการปรับตัวในอังกฤษได้ดีกว่าเขาเลยจึงตัดสินใจย้ายมาถิ่นแอนฟิลด์กับลิเวอร์พูลด้วยค่าตัวมูลค่า10ล้านยูโรในที่สุด

พนันบอลออนไลน์

ชีวิตในรั้วแอนฟิลด์ทาง คูตินโญ่ถือว่ามีความมั่นคงในอาชีพค้าแข้งมากที่สุดนับจากสี่สโมสรที่เคยเล่น เพราะนอกจากจะตีตราจองตำแหน่งตัวจริงบนแผงมิดฟิลด์เร้ดแมชชีน(ถ้าไม่เจ็บไม่แบน)คูตินโญ่เขาจะได้ยืนอยู่หลังกองหน้าในฐานะเบอร์10ของสโมสรโดยซึ่งนักเตะวัย หนุ่ม21 ปีรายนี้ถือว่าปรับตัวกับต้นสังกัดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เซ้นส์และสปีดบอลที่สามารถพลิกแพลงในพื้นที่แคบๆตอบโจทย์ความต้องการของสาวกเดอะค็อปได้อย่างตรงประเด็นและหลังจากทีมลิเวอร์พูลได้ร้างนักเตะสไตล์นี้มานานตั้งแต่หมดยุครุ่งเรืองในช่วงปียุค80"

แมตช์เปิดตัวของเจ้าหนูคูตินโญ่ในถิ่นสนามแอนฟิลด์นั่นคือเกมที่พบกับสโมสรเวสต์บรอมวิชที่ลงมาสัมผัสเกมในช่วงประมาน10นาทีสุดท้ายแทนสจ๊วร์ต ดาวนิ่งก่อนที่ต้นสังกัดจะแพ้เวสต์บรอมฯไปด้วยสกอร์ 0ต่อ2 ถึงกระนั้น ลิเวอร์พูล มาแก้ตัวได้ในสัปดาห์ถัดมาที่เปิดรังถล่มสโมสรสวอนซีไปถึง 5ต่อ0 ซึ่งเปรียบเสมือนแมตช์เปิดตัวอย่างเป็นทางการของคูตินโญ่ โดยที่เขาสามารถทำประตูได้ 1 ลูกหลังจาก"หม่อมเหยิน"หลุยส์ ซัวเรซจ่ายบอลถวายพานทองมาให้ดาวยิงเชื้อชาติบราซิลซัดเข้าไปไม่เหลือซากในนาทีที่46ซึ่งเป็นช็อตที่สร้างความประทับใจให้กับเบรนแดน ร็อดเจอร์สนายใหญ่เร้ดแมชชีนเข้าอย่างจัง

สถานะในทีมของฟิลิปเป้ คูตินโญ่ดีขึ้นทันตาเห็นเพราะหลังจากนั้นเจ้าตัวได้ออกจากสตาร์ทเป็น11ตัวจริงในเกมกับทีมวีแกนซึ่งแข้งวัยหนุ่ม21ปีไม่ทำให้ความไว้ใจของร็อดเจอร์สต้องเสียเปล่าเมื่อสร้างจังหวะเกมรุกได้อย่างวูบวาบและเป็นแอสซิสต์ให้กับปีกอย่างสจ๊วร์ต ดาวนิ่งและหลุยส์ ซัวเรซยิงประตู ส่งลิเวอร์พูลออกนำ 2ต่อ0 และตั้งแต่ยังไม่ครบ20นาทีแรกก่อนที่เจ้าตัวจะถูกถอดไปพักในนาทีที่71หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ยังคงรักษาความคงเส้นคงวาในระดับฝีเท้าที่น่าพอใจจนได้รับการโหวตจากสาวกเดอะค็อปให้คูตินโญ่เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคมและเมษายนเมื่อปี2013และพร้อมกับคั่วดาวรุ่งฟอร์มแรงที่สุดในสโมสรไปครองอีกด้วย



เจ้าหนูฟิลิปเป้ คูตินโญ่ คือผลผลิตชิ้นโบแดงจากศูนย์ อคาเดมี่ของวาสโก ดา กาม่าที่ให้การดูแลมิดฟิลด์ร่างเล็กรายนี้ตั้งแต่อายุ6ขวบซึ่งโดย คูตินโญ่โดยใช้เวลาในการพัฒนาฝีเท้าเกือบเกือบ10ปีก่อนจะฉายแววความเป็นอัจฉริยะลูกหนังก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับวาสโกดากาม่าและในทีมชาติบราซิลรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ซึ่งในบทบาทหลังดูเหมือนจะเป็นการประกาศศักดาให้โลกรู้ถึงความฉกาจฉกรรจ์ของฝีเท้าและหลังจากตะบันแฮตทริคใส่อิหร่านในเกมอุ่นเครื่องและด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงหาตัวจับยากสำหรับเยาวชนที่มีอายุแค่เพียง16ถึง17ปีจึงเข้าตาอินเตอร์ มิลานมหาอำนาจลูกหนังของอิตาลีเข้าอย่างจัง

ลิเวอร์พูล

ฤดูกาลที่2012-13

ฟิลิปเป้คูตินโญ่ทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เจอกับ สวอนซีซิตีเมื่อในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2013 คูตินโญ่ได้ย้ายจาก อินเตอร์มิลานได้ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 8.5 ล้านปอนด์ โดย คูตินโญ่ได้สวมเสื้อหมายเลข10และต่อมา ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 คูตินโญ่ได้ลงเล่นให้กับลิเวอร์พูลเป็นครั้งแรกโดย คูตินโญ่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง คือในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ พ่ายแพ้ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน คาบ้าน 0ต่อ2 ต่อมา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 คูตินโญ่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกและทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สวอนซีซิตี 5ต่อ0ต่อมา และในวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2013 คูตินโญ่ได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำ ไปอีก2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วีแกนแอธเลติก ที่ ดีดับเบิลยูสเตเดียม 4ต่อ0 ต่อมา ในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2013 คูตินโญ่ได้ทำประตูตีไข่แตกให้ ลิเวอร์พูล ไล่ เซาแทมป์ตัน มาเป็น 1ต่อ2 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1ต่อ3 ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคมปีค.ศ. 2013 นัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก เจ้าหนูคูตินโญ่ได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ เอาชนะ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 1ต่อ0 จบฤดูกาล คูตินโญ่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ ถึง3 ประตู จาก 13 นัด และได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำประตู ได้ถึง7ลูก ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ คูตินโญ่ ได้รางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรลิเวอร์พูลประจำฤดูกาล 2012และ13 ไปครอง ทำให้ คูตินโญ่ได้เป็นขวัญใจของสาวกเดอะค็อปได้อย่างเต็มตัว  พนันบอลออนไลน์

ในฤดูกาลที่2013-14

คูตินโญ่ เจอกับ มาร์ควิลสัน นักเตะของ สโตกซิตี ในพรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2013–14
ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่2013และ14 คูตินโญ่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ชนะ 3 นัดติดต่อกัน (ชนะ สโตกซิตี 1 0, ชนะ แอสตันวิลลา 1ต่อ0 และชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1ต่อ0) ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายนในปีค.ศ. 2013 คูตินโญ่ได้มีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ จากการปะทะกับหลังจอมถึกแอชลีย์ วิลเลียมส์ กองหลังของ สวอนซีซิตี ทำให้ คูตินโญ่ต้องพักยาวถึงสิ้นเดือนตุลาคม และต่อมา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 คูตินโญ่ได้กลับมาลงสนามอีกครั้งโดยที่เขาถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 0ต่อ2 ต่อมา ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 คูตินโญ่ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฟูลัม 4ต่อ0 ต่อมา ในวันที่ 23 พฤศจิกายนในค.ศ. 2013 คูตินโญ่ได้ทำประตูแรก ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสันพาร์ก 3ต่อ3 ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ.ใน2013 คูตินโญ่ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ซิตี 1ต่อ0 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1ต่อ2
พนันบอลออนไลน์
ในวันที่ 12เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 คูตินโญ่ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟูลัม ที่เครเวนคอตทิจ 3ต่อ2 ต่อมาในวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2014 คูตินโญ่ได้ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีกซึ่งในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 4ต่อ0 ต่อมา ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2014 คูตินโญ่ได้ทำประตูชัยให้และลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3 2 ช่วยให้ทีมลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูงและลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไปและต่อมาในวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับทีมนิวคาสเซิลยูไนเต็ด เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่างลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะนิวคาสเซิลยูไนเต็ด และต้องลุ้นให้ เวสต์แฮมยูไนเต็ด เอาชนะทีมแมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2ต่อ1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2ต่อ0 ทำให้ ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่อย่างน่าเสียดาย จบฤดูกาล คูตินโญ่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ถึง5 ประตูจาก 33 นัด ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้อันดับ 2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้กลับไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นับตั้งแต่ในปี 2009

พนันบอลออนไลน์

ในฤดูกาลที่2014-15
ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2014 คูตินโญ่ได้ลงสนามนัดแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดเปิดฤดูกาล 2014 15 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 2ต่อ1 ต่อมา ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2014 ลีกคัพ รอบสี่ คูตินโญ่ได้เปิดบอลให้ เดยัน ลอฟเรน ทำประตูชัย ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สวอนซีซิตี 2ต่อ1 ต่อมาในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2014 คูตินโญ่ได้ลงสนามเป็นตัวสำรองและเขาได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ ที่ลอฟตัสโรด 2ต่อ1 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะเอาชนะไป 3ต่อ2 ต่อมา ในวันที่21 ธันวาคม ค.ศ. 2014 คูตินโญ่ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ อาร์เซนอล 2ต่อ2

ต่อมาในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2015 คูตินโญ่ได้จ่ายบอลให้เพื่อนทำไป2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2 ต่อ และต่อมาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 คูตินโญ่ได้ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์เจ้าหนูคูตินโญ่ได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โบลตันวอนเดอเรอส์ ที่มาครอน สเตเดียม 2ต่อ1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ ต่อมา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 คูตินโญ่ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2ต่อ0ต่อมา ในวันที่ มีนาคม ค.ศ. 2015 คูตินโญ่ได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 2-1ต่อมา ในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ ในรอบหก นัดรีเพลย์ คูตินโญ่ได้ทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แบล็กเบิร์นโรเวอส์ ที่อีวู้ด ปาร์ค 1ต่อ0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เอฟเอคัพ ได้สำเร็จต่อมา ในวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ คูตินโญ่ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แอสตันวิลลา 1ต่อ0 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 1ต่อ2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุดต่อมาไอ้หนูคูตินโญ่เขาได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ แล้วยังรวมถึงเข้าชิงราวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2015 คูตินโญ่ นักเตะของลิเวอร์พูลคนเดียวที่ได้ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ต่อมา ในวันที่ 2ของเดือนพฤษภาคมในปีค.ศ.2015 คูตินโญ่ได้ทำประตูที่ 5ในพรีเมียร์ลีกซึ่งในนัดที่ทีมลิเวอร์พูลได้เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะสโมสรควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 2ต่อ1ต่อมาและในวันที่ 19ของเดือนพฤษภาคมในปีค.ศ. 2015และเจ้าหนูคูตินโญ่คว้าได้4รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูลและได้แก่ นั่นคือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีได้มาจากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล,และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีซึ่งได้จากการโหวตของแฟนๆ,รางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งปีจากลูกยิงไกลในเกมกับสโมสรเซาแทมป์ตันและเมื่อเดือนกุมภาพันธ์และรางวัลฟอร์มยอดเยี่ยมแห่งปีและในเกมกับสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตีโดยจากงานประกาศรางวัล"Players' Awards2015"โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่เอ็คโค่ อารีน่าจบฤดูกาลคูตินโญ่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 5 ประตูจาก 35 นัด

ทีมชาติบราซิล

โคปาอเมริกา 2015
ในวันที่5เดือนพฤษภาคมปีค.ศ. 2015ในนามทีมชาติบราซิลได้เรียกตัวเจ้าหนูฟีลีปี คูตินโญ่ติดรายชื่อชุดลุยศึกโคปาอเมริกาปี2015






พนันบอลออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ แจ็ก วิลเชียร์

ประวัติของ แจ็ก วิลเชียร์




พนันบอลออนไลน์


                  



ชื่อเต็ม แจ็ก แอนดรูว์ แกร์รี่ วิลเชียร์


เกิด 1 มกราคม ค.ศ. 1992 (23 ปี)


เกิดที่ สตีเวนิจ,อังกฤษ


สูง 173 เซนติเมตร


ตำแหน่ง กองกลาง


สโมสรปัจจุบัน อาร์เซนอล



ชีวิตช่วงแรก


วิลเชียร์เกิดในเมืองสตีเวนิจฯฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ ปัจจุบันอยู่ที่เมือง ฮิตชิน ฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ซึ่งแจ็คเขาเติบโตขึ้นที่เมืองฮิตชิน เข้าเรียนโรงเรียนประถมที่ไวต์ฮิลเมื่อจบเขาก็ได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเดอะไพรออรีแจ็ควิวเชียเขาเป็นกัปตันทีมฟุตบอลของเดอะไพรออรีในชัยชนะเคาน์ตีคัปและดิสทริกคัป ตั้งแต่ชั้นเกรด7ถึงเกรดประมาน10(ราว ม.1-5)และยังเล่นกับฟุตบอลทีมชาติอายุไม่เกินรุ่น15ปีเริ่มตั้งแต่ชั้นเกรดถึงที่8(ม.2)โดยร่วมเล่นกับเจค อาร์เจนต์-มาร์ตินและแจ็ก ลีฟส์ แห่งเลย์ตันโอเรียนต์



ระดับอาชีพ


ทีมเยาวชนสำรอง


วิลเชียร์ได้เข้าร่วมกับสถาบันสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลโดยในช่วงเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2001 ขณะที่อายุได้ 9 ปี หลังจากที่เข้ร่วมเล่นกับสโมสรฟุตบอลลูตันทาวน์เป็นเวลาถึงราวๆ2 เดือน และเมื่ออายุ 15 ปี เขาเป็นกัปตันทีมอายุไม่เกิน 16ปีและเขาก็ได้ลงเล่นบ้างในทีมอายุไม่เกินสิบแปดปีในฤดูร้อนปี 2007แจ็ควิวเชียร์เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชนะเลิศแชมเปียนส์ยูทคัป ต่อมาโค้ชของสถาบันสโมสรผู้จัดการทีมอย่างสตีฟ เบาลด์ ได้ให้เขาเริ่มเล่นกับทีมอายุไม่เกินสิบแปดปีครั้งแรกโดยแข่งกับสโมสรฟุตบอลเชลซี อายุไม่เกินสิบแปดปีเขาทำประตูแรกในการแข่งกับสโมสรฟุตบอลแอสตันวิลลา อายุไม่เกิน สิบแปดปีในชัยชนะฯ4–1ฯจากนั้นยิงแฮตทริก ในการแข่งกับสโมสรฟุตบอลวัตฟอร์ตอายุไม่เกินสิบแปดปีได้ทำให้ทีมชนะในแอคาเดมีกรุ๊ปเอ จบฤดูกาลกับทีมอายุไม่เกินสิบแปดปีเขาทำประตู 13 ประตู ในการลงแข่งขัน 18 นัด เมื่อเขาอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น

นันบอลออนไลน์

เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 เขาลงแข่งเปิดตัวในฐานะทีมสำรองอาร์เซนอลและโดยเมื่อเขาอายุ 16 ปี โดยแข่งกับเรดดิง วิลเชียร์ทำประตูให้กับการแข่งขันที่อาร์เซนอลได้ประตูเดียวและในสุดท้ายคือผลเสมอ เขาทำประตูในนัดแข่งกับทีมสำรองของเวสต์แฮมในเดือนมีนาคมซึ่งจังหวะนั้นโดยยิงบอลโค้งเข้าไปในกรอบประตูบน ซึ่งอาร์แซน แวงแกร์ได้จับตามองดูอยู่วิวเชียร์เขาทำประตู 2 ประตูและช่วยส่งทำประตู 2 ประตู ในการลงแข่งเพียงแค่3นัดครั้งให้กับทีมสำรองในปลายฤดูกาล 2007-08 เขาลงเล่นในทีมชุดอายุไม่เกินเพียง16 ปี นำชัยชนะในถ้วยอะตาแลนตาคัป และได้ตำแหน่งผู้เล่นแห่งการแข่งขันครั้งนี้ไปด้วยเขามีบทบาทสำคัญในการแข่งขันของอาร์เซนอลซึ่งอยู่ในชุดเอฟเอฟยูทคัป 2009 โดยทำประตูในรอบรองชนะเลิศและทำให้เขาเป็นผู้เล่นแห่งนัดโดยอยู่ในการในการแข่งขันครั้งแรกกับลิเวอร์พูล เขาช่วยทำประตู 2 ประตูและยังทำประตูได้อีก



ในฤดูกาลที่ 2008-2009

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2008 วิลเชียร์ได้รับเลือกให้เล่นให้ทีมชุดใหญ่โดยเป็นในนัดกระชับมิตรก่อนเปิดฤดูกาล เขาเล่นเปิดตัวในทีมแรกโดยแข่งกับสโมสรฟุตบอลบาร์เนตเขาได้ลงแทนที่เฮนรี ลันส์บูรี ในครึ่งหลัง ช่วงส่งลูกให้เจย์ ซิมป์สันซึ่งเขายิง วิลเชียร์ทำ 2 ประตูแรกในนัดที่อาร์เซนอลชนะ บูร์เกนลันด์เรดส์XI ไปได้ด้วยสกอร์10–2 และอีกครั้งในสองวันต่อมาในนัดกระชับมิตร แข่งกับสตุตการ์ต

โดยที่ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล อาร์แซน แวงแกร์ ให้โอกาสวิลเชียร์ลงแข่งในทีมแรกเมื่อในการเป็นผู้เล่นในฤดูกาล 2008–09โดยเขาได้ใส่เสื้อเบอร์ 19เพราะนั่นคือเบอร์ซึ่งเขาใส่เบอร์นี้มาจนถึง ณ วันนี้เขาลงแข่งครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกซึ่งมันเป็นการแข่งขันโดยแข่งกับสโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวิร์ส ที่อีวูดพาร์กซึ่งเมื่อครั้งต่อมาในเดือนกันยายนในปีฤดูกาล2008 เขาถูกเปลี่ยนลงไปแทน โรบิน ฟาน เพอร์ซี ในนาทีที่ 84ด้วยอายุเพียงแค่16 ปี กับอีก 256 วัน ทำให้เขาเป็นผู้เล่นอาร์เซนอลที่อายุน้อยที่สุดในการลงแข่งครั้งแรกเพียงแค่การเล่นโดยสถิติก่อนหน้านี้เป็นของ เซสก์ ฟาเบรกัส หลังจากนั้น 10 วันและต่อมาเมื่อวันที่ 23เดือนกันยายนเจ้าหนูวิลเชียร์ทำประตูแรกให้กับอาร์เซนอลในชัยชนะ 6–0 เหนือสโมสรฟุตบอลเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดเป็นการแข่งขันในฟุตบอลลีกคัป เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 20008 วิลเชียร์ลงเปลี่ยนตัวแทนในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกซึ่งในนัดนั้นเป็นการนัดเจอกับสโมสรฟุตบอลดีนาโมเคียฟ กลายเป็นผู้เล่นอายุเพียงแค่16 ปี คนที่ 5 ที่ได้ลงแข่งในแชมเปียนส์ลีกในเดือนมกราคมปีคริสศักราช2009เจ้าหนู แจ็ควิลเชียร์เซ็นสัญญาฟุตบอลอาชีพครั้งแรกโดยสัญญาถึงเดือนกรกฎาคม ในปีนั้น พนันบอลออนไลน์



ฤดูกาลที่ 2009/2010



ในช่วงระหว่างการเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลปีที่2009-2010 วิลเชียร์ได้ทำประตู 2 ครั้งและได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งนัดให้อาร์เซน่อลซึ่งอยู่ในนัดกระชับมิตรที่เอมิเรตส์คัป เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2009 เขาลงเล่นให้กับอาร์เซนอลในชัยชนะเหนือสโมสรเวสต์บรอมวิช อัลเบียนซึ่งเป็นการแข่งขันในลีกคัพ 2-0 โดยในนาทีที่ 37 เกิดข้อพิพาทระหว่างเขากับ เจฌรม โทมัส โดยโทมัดผลักหน้าเขา และได้รับใบแดง



ยืมตัวไปโบลตันวันเดอเริร์ส



หลังจากนั้นต่อมาในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2010 วิลเชียร์ได้แข่งในพรีเมียร์ลีกโดยดป็นการร่วมกับทีมสโมสรฟุตบอลโบลตันวันเดอเริร์ส ในการยืมตัวไปจนจบฤดูกาลปีที่2009–10 เขาลงแข่งในลีกครั้งแรกโดยเป็นทีมเยือน แข่งกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีต่มาในเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ และทำประตูแรกให้กับโบลตัน เป็นประตูแรกในพรีเมียร์ลีกของเขาหลังจากนั้นและวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2010 ชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ด 2–1 เขาสร้างความประทับใจให้กับทีมโบลตันหลังจากนั้นต่อมาและทางโบลตันพยายามที่จะเซ็นสัญญายืมตัวเขาอีกฤดูกาลแต่ก็ไม่สำเร็จ



ฤดูกาลที่ 2010-2011



วิลเชียร์ในนัดเจอกับเบอร์มิงแฮมซิตี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2010 ในฤดูกาล 2010/11 ถือเป็นฤดูกาลแห่งการแจ้งเกิดของเจ้าหนูแจ็กในเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2010 วิวเชียเริ่มเล่นในนัดพรีเมียร์ลีกครั้งแรกกับอาร์เซนอลซึ่งนัดนั้นโดยพบกับลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ ในสุดสัปดาห์ถัดมาแข่งกับสโมสรฟุตบอลแบล็กพูลและวิวเชียร์เขาเป็นคนช่วยจ่ายลูกยิงประตู เมื่อวันที่ 15 กันยายนในปีครสศักราช 2010 วิรเชียรลงการแข่งขันในแชมเปียนส์ลีกครั้งแรก ได้ช่วยจ่ายลูกยิงและมีผลงานการเล่นที่น่าประทับใจวิลเชียร์ได้เป็นผู้เล่นอาร์เซนอลแห่งเดือนกันยายนในปีคริสศักราชที่2010 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2010 วิลเชียร์ได้ใบแดงครั้งแรกในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อต่อมาในนัดเจอกับสโมสรฟุตบอลเบอร์มิงแฮมซิตี จากการปะทะกับ นีกอลา ซีกิช พนันบอลออนไลน์

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2010 วิลเชียร์ทำประตูแรกในแชมเปียนส์ลีกและเขาได้โชว์ความเหนือชั้นโดยชิปข้าม อันดรีย์ ปีอาตอฟ ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม ในรอบแบ่งกลุ่มที่เจอกับสโมสรฟุตบอลชาคห์ตาร์โดเนตสค์ผลออกมาคือชนะไป 5-1เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 วิลเชียร์ได้เซ็นสัญญาระยะยาวมากฉบับใหม่เมื่อวันที่ในวันที่27 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 วิลเชียร์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นการที่เขาแข่งขันในนัดอาร์เซนอลพบสโมสรฟุตบอลแอสตันวิลลา ชนะไป 4–2 วิลเชียร์ได้รับคำชมในผลงานที่เขาแข่งกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา โดยทีมชนะไป 2-1 ในนัดนี้เขาส่งผ่าน 93.5% โดย 91% เกิดขึ้นในหนึ่งในสามส่วนของสนาม ในแดนคู่แข่งผู้จัดการทีมอาร์เซนอลอาร์แซนแวงแกร์หรือเจ๊แวงก์พูดถึงผลงานครั้งนี้ของเขาว่า "โดดเด่น" เดือนเมษายน พ.ศ, 2011 วิลเชียร์ได้รับรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งแห่งปีจากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพแตแล้วและยังอยู่ในรายชื่อทีมแห่งปีของฤดูกาล 2011 ของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพแถมยังรวมอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอื่นของอาร์เซนอล ซาเมียร์ นาสรีและบาการี ซาญา




รูปแบบการเล่น


วิเชียรเป็นนักฟุตบอล ที่เลื่องชื่อในด้านการส่งผ่านบอลเขาเป็นคนที่มีการเลี้ยงลูก วิสัยทัศน์ การเคลื่อนไหวและการเล่นรวมกันโอเวนคอยส์ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลโบลตันวันเดอเริร์ส ในช่วงการยืมตัวอยู่ในโบลตันได้ออกมาให้คำชื่นชมความสามารถเขาว่า "หยุดฝ่ายตรงข้ามที่ครองลูกและสามารถเอามาได้"โดยทั้งๆที่ที่เขาไม่ได้สูง เขายังได้ถูกเปรียบเทียบกับอดีตนักฟุตบอลอังกฤษตัวเก่งอย่างพอล แกสคอยน์ ในด้านคุณลักษณะการเล่นกองกลาง อย่างไรก็ตามมีอดีตหัวหน้าฝ่ายพัฒนาเยาวชนของอาร์เซนอล เลียม เบรดี กล่าวว่าเจ้าหนูแจ็ควิลเชียร์มีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ในช่วงต้นของอาชีพ วิลเชียร์เล่นในหลายๆตำแหน่งโดยอย่างเช่นตำแหน่งกองกลางตัวรุก ตำแหน่งปีก และควบคุมช่องว่างระหว่างกองหลังและกองกลางโดยเขาเกือบเล่นในทุกตำแหน่งที่ว่านี้ในฤดูกาล ที่ผ่านมา2010-11 แวงแกร์ยังกล่าวว่า "เขาเป็นผู้เล่นที่ทั้งรุกและรับ และยังเล่นได้มากกว่าการเป็นกองกลางเฉย ๆ"


พนันบอลออนไลน์



การแข่งขันระดับประเทศ



โดยต่อมาตั้งแต่ ค.ศ. 2006 ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ได้เลือกวิลเชียร์เพื่อเล่นให้กับทีมชาติ โดยภายหลังในช่วงอายุของเขา โดยวิลเชียร์ในขณะที่อายุ 14 ปี ในลงเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ อายุไม่เกิน 16 ปี การแข่งขันวิกตอรีชีลด์ ในปี ค.ศ. 20406 ภายหลังเมื่ออายุ 15 ปี เขาลงเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ อายุไม่เกิน สิบเจ็ดปี จากนั้นมีชื่อในทีมฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป อายุไม่เกิน สิบเจ็ดปี ในปี 2009 ลงเล่นใน 2 นัดแรก เป็นตัวหลักในการกดดันในเกมที่ การแข่งขันที่2 ที่แข่งกับเยอรมนี ก่อนที่จะออกไปหลังจากบาดเจ็บ ทำให้เขาอดลงเล่นในนัดสุดท้ายหลังจากการแข่งขันนี้ ทำให้เขาอยู่ในรายชื่อ 10 ดาวรุ่งแห่งการแข่งขันนี้


แจ็กได้รับคำชมจากผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ อย่างกุนซือฟาบีโอ กาเปลโล ที่แสดงให้เห็นว่า เขามีโอกาสที่จะลงเป็นกองกลางในทีมผู้เล่นฟุตบอลโลก เมื่อปี2010 แต่ก็พลาดไป เขายังเป็นตัวสำรองในทีมชาติอังกฤษอายุไม่เกิน 21 ปี โดยลงแข่งครั้งแรกในนัดเจอกับเนเธอร์แลนด์

เมื่อวันที่ เจ็ด7 สิงหาคม ค.ศ. 2010 เขาถูกเรียกตัวในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เป็นการแข่งขันในนัดกระชับมิตร เจอกับฟุตบอลทีมชาติฮังการี เมื่อวันที่ 11 เดือนสิงหาคมเขาลงแข่งครั้งแรกในฐานะตัวแทนทีมชาติอังกฤษเมื่อวันที่ ในวันที่11 สิงหาคม พ.ศ. 2548 ในนาทีที่ 83 โดยลงแทนสตีเวน เจอร์ราด เป็นการแข่งในนัดเจอกับฮังการีและทำให้เขาเป็นผู้เล่นทีมชาติอังกฤษที่อายุน้อยที่สุด อันดับ 10 พนันบอลออนไลน์

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 เจ้าหนูแจ็คเขาลงเป็นตัวจริงลงสนามครั้งแรกให้กับทีมชาติอังกฤษ ในนัดกระชับมิตรเจอกับฟุตบอลทีมชาติเดนมาร์ก วิวเชียร์เขาสร้างความประทับใจถึงแม้ว่าจะเล่นในตำแหน่งไม่คุ้นเคย กับกองหลัง และได้คำชมจากฟาบีโอ กาเปลโล

ในฟุตบอลยูโร 02016 รอบคัดเลือก ในแมตช์การแข่งขันระหว่าง สโลเวเนีย กับ อังกฤษ วิลเชียร์สามารถทำประตูแรกให้กับทีมชาติได้ โดยเขาสามารถและยิงได้ถึง 2 ลูก ด้วยลูกยิงไกลในนาทีที่ 57 และ 74 ผลโดยรวมอังกฤษเป็นฝ่ายเอาชนะไป ด้วยสกอร์3-2 ประตู ซึ่งนัดนี้ทำให้วิลเชียร์ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก








วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ประวัติของ ฮาเมส โรดริเกซ

ประวัติของ ฮาเมส โรดริเกซ




พนันบอลออนไลน์



ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม ฮาเมส ดาบิด โรดริเกซ รูบิโอ


วันเกิด 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1991 (23ปี)


สถานที่เกิด เมืองกูกูตา ประเทศโคลอมเบีย


ส่วนสูง 180 เซนติเมตร


เท้าที่ถนัด เท้าซ้าย


ตำแหน่ง ปีกและกองกลางตัวรุก


สโมสรปัจจุบัน เรอัลมาดริด



ประวัตินักเตะ

ฮาเมส ดาบิด โรดริเกซรูบีโอ(ในภาษาสเปน Jame David Rodriguez Rubio) เป็นนักฟุตบอลชาวโคลอมเบียปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรเรอัลมาดริดในลีกของสเปนและติดทีมชาติโคลอมเบียไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศบราซิลในศึกการแข่งขันฟุตบอลโลก2014และถือเป็นดาวซัลโวในครั้งนั้นโดยยิงไปทั้งหมด6ประตู
ฮาเมส โรดรีเกซเขาเกิดที่เมืองกูกูตา ประเทศโคลอมเบีย เป็นบุตรชายของวิลซอน โดยที่ฮาเมส โรดรีเกซ เบโดญา และมารีอา เดล ปีลาร์ รูบีโอ โดยชื่อ ที่ว่า"ฮาเมส" หรือ ที่เรารู้จักกันในนามว่า"เจมส์" ตามการอ่านออกเสียงแบบสำเนียงอังกฤษ ซึ่งแม่กับพ่อเขาบอกว่าตั้งมาจากเจมส์ บอนด์
โรดรีเกซมีแรงบันดาลใจที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลจากเหตุการณ์ที่อันเดรส ดิเอโกเอสโกบาร์ กองหลังของทีมชาติโคลอมเบียที่ทำเข้าประตูตัวเองในฟุตบอลโลก ในปีค.ศ.1994 ที่สหรัฐอเมริกา ทำให้โคลอมเบียที่ถูกจัดให้หนึ่งในทีมเต็งทีมหนึ่งต้องตกรอบแรก โดยที่เมื่อกลับไปที่โคลอมเบีย เอสโกบาร์ก็ถูกยิงเสียชีวิตจากคำสั่งของนักค้ายาเสพติดที่เสียเงินพนัน

พนันบอลออนไลน์

โดยที่โรดรีเกซเริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรเอนบีกาโดในโคลอมเบีย ด้วยการที่และย้ายไปที่อาร์เจนตินากับสโมสรบันฟิลด์ ในปี ค.ศ.2006 พร้อมทำสถิติเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่อายุน้อยที่สุดในอาร์เจนตินา และก่อนจะย้ายมาที่ทวีปยุโรปในประเทศโปรตุเกสกับสโมสรโปร์ตู ด้วยค่าตัว ประมาน2.1 ล้านยูโรในปีถัดมา ซึ่งโรดรีเกซคว้าแชมป์ลีกกับโปร์ตู ใน2 ฤดูกาลติดต่อกัน ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปี
ต่อมาได้ย้ายไปอยู่กับอาแอ็สโมนาโก ในลีกเอิงของฝรั่งเศส ด้วยค่าตัวแพงถึง 45 ล้านยูโร ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 2013 ทำให้โรดรีเกซลกายเป็นนักฟุตบอลโคลอมเบียที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับ ที่2 ในประวัติศาสตร์ รองจากราดาเมล ฟัลกาโอ โดยในมอนาโก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แชมป์ และทว่าแต่โรดรีเกซก็สามารถแสดงผลงานได้อย่างดีเยี่ยม
ในฟุตบอลโลก ในปี2014 ที่บราซิล เป็นเจ้าภาพ ฮาเมส โรดรีเกซ แสดงผลงานได้อย่างโดดเด่นมาก ซึ่งโดยที่เขาเป็นนักฟุตบอลแรกคนแรกที่ยิงประตูได้ทุกนัดที่ลงแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายติดต่อกันถึง รวมแล้ว4 นัด นับจากกริสเตียน วีเอรี ของอิตาลี ทำได้ในฟุตบอลโลก ในปีค.ศ.1998 ที่ฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกยิงในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในประเทศที่โคลอมเบียเอาชนะอุรุกวัยไปได้ 2-0 โดยโรดรีเกซกลับตัวยิงด้วยเท้าซ้ายแบบวอลเลย์ โดยที่ลูกฟุตบอลย้อยเสียบใต้คานเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ลูกนี้ทำให้ได้รับคำชมอย่างมาก แล้วหลังจากนั้นต่อมาได้รับการเลือกจากแฟนฟุตบอลให้เป็นลูกที่สวยที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ นอกจากนี้ประตูดังกล่าวยังได้รับรางวัลฟีฟ่าปุสการ์อวอร์ด2014 อีกด้วย

พนันบอลออนไลน์

และหลังจากที่จบฟุตบอลโลก 2014 แล้ว ฮาเมสโรดรีเกซก็ได้ย้ายไปเรอัลมาดริด ในลาลีกา ของสเปน ด้วยค่าตัว ราวๆประมาน60 ล้านปอนด์ โดยได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ซึ่งเป็นหมายเลขเก่าของเมซุตโอซิล
โดยในปัจจุบัน ฮาเมส โรดรีเกซ ได้สมรสแล้วกับดาเนียลา ซึ่งเป็นน้องสาวของดาบิด เดวิดโอสปีนา ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติโคลอมเบียชุดเดียวกัน ซึ่งเขาทั้งคู่สมรสกันตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2011 และมีลูกสาวด้วยกันทั้งหมด 1 คน ชื่อ ซาโลเม

โดยฮาเมส โรดรีเกซไม่เคยมีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าในนัดที่เรอัลมาดริดชนะเซบียา ไปด้วยสกอร์2-1 ซึ่งใช้เวลา 2 เดือนในการรักษา จนเขาสามารถลงเล่นในนัดที่เรอัลมาดริดถล่มกรานาดาไป 9-1
ประวัติในวัยเด็ก
ผมจะพาคุณมารู้จักเจมส์ที่อ่านว่า 'ฮา-เมส' เจ้าหนูน้อยซึ่งเขาเป็นจากเด็กชายขี้อายจนไม่กล้าพูดคุุยกับใคร สู่สุดยอดดาวยิงฟุตบอลโลกและอันดับ ที่32 ในการจัดอันดับสุดยอดนักเตะโลกเอฟทีที100
"ดีมากเด็กๆ! เจอกันใหม่พรุ่งนี้นะ" ในช่วงบ่ายวันหนึ่งของฤดูร้อนปี 2004 หลังการซ้อมที่เอล โดราโด้ ซึ่งเป็นทีมเล็กๆ ที่เปรียบเสมือนอะคาเดมี่ของทีมเอนบิกาโด้ ในลีกโคลอมเบีย โดยรวมแล้วนักเตะวัยรุ่นส่วนมากทยอยกันเดินกลับเข้าไปห้องแต่งตัวเพื่อหลบจากความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ยามบ่าย ซึ่งต่อมามีเพียง 1 คนที่ยังอยู่ในสนามซ้อมเพียงลำพัง และไม่มีใครแปลกใจที่ได้เห็นภาพนั้น

พนันบอลออนไลน์

และในเวลานั้นหนุ่มน้อยฮาเมสวัย 13 ปี ยังเป็นเด็กน้อยขี้อายที่เพื่อนร่วมทีมหลายคนยังไม่เคยได้ยินฮาเมสพูดเลยสักคำ โดยการที่เขาเป็นคนที่เคยได้พูดคุยกับฮาเมสก็ได้รู้ว่าแต่ละคำที่พูดออกมาจะอ้ำๆอึ้งอึ้งๆ แต่แล้วเขาก็ลังเลเพราะอาการติดอ่าง แต่โชคดีที่เจ้าหนุ่มน้อยสามารถสื่อสารด้วยวิธีอื่น ฮาเมสน้อยสื่อสารด้วยสองเท้า และในความเป็นจริงเท้าสองข้างของฮาเมสก็พูดแทนเจ้าหนุ่มน้อยได้อย่างหมดเปลือก ก็นั่นแหละและนั่นคือสาเหตุที่ฮาเมส โรดริเกซยังคงฝึกซ้อมหลังจากทุกคนเลิกและกลับบ้านกันไปหมดแล้ว พอหลังจากครึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้จัดการทีมเอล โดราโด้ก็ต้องกลับบ้าน เจ้าหนูเขาฮาเมสก็ยังซ้อมยิงบอลเข้าประตูว่างเปล่า และสิบปีถัดมา อีกไม่กี่ปีเจ้าหนุ่มน้อยติดอ่างเติบโตมาเป็นกาลักติโก นักเตะค่าตัวแพงของเรอัลมาดริด เขากลายเป็นดาวยิงสูงสุดฟุตบอลโลก 2014 และเป็นขวัญใจของชาวโคลอมเบียนทั้งชาติ แล้วเขาก็ได้ทำให้ทุกคนผู้ที่รู้จักฮาเมส ดาบิด โรดริเกซ มาตั้งแต่เป็นเด็กชาย ส่วนผมไม่แปลกใจกับเส้นทางฟุตบอลและชีวิตของสุดยอดดาวยิงรายนี้เลยทุกคนอย่าเพิ่งคิดว่าชีวิตของฮาเมสจะเป็นละครดราม่า เจ้าหนูฮาเมสไม่ได้เติบโตมากับการเล่นฟุตบอลข้างถนนด้วยลูกบอลที่ทำจากถุงเท้าเก่าๆ แล้วจะม้วนเข้าด้วยกัน เขาไม่ได้โดดเรียนและทิ้งการเรียนเพื่อไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ซึ่งฮาเมสเขาไม่ใช่เด็กวัยรุ่นอเมริกาใต้ทั่วไปที่เติบโตจากความยากจนมาสู่การเป็นดาวยิงระดับโลก โดยเส้นทางฟุตบอลของฮาเมสคล้ายกับเส้นทางของกาก้ามากกว่าที่จะเหมือนคาร์ลอส เตเบซ
ฮาเมส เติบโตมาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่มีทางเลือกในชีวิตให้เลือกเดิน เยอแยะแต่ฮาเมสเลือกที่จะเล่นฟุตบอล อาชีพที่สร้างจากกรวยยาง กระดานแท็กติก ด้วยระบบการเล่นและน้ำตา "ผมชอบฟุตบอลมาตลอด และมีคนที่พาผมไปเรียนฟุตบอลที่โรงเรียนในเมืองโตลิม่าตอนห้าขวบก็คือพ่อบุญธรรมของผม นั่นคือจุดเริ่มต้นของผม" ฮาเมสเล่าย้อนถึงชีวิตวัยเด็ก

พนันบอลออนไลน์

โดยที่รองเท้าฟุตบอลคู่แรกของฮาเมส อะดิดาสสีดำ-ขาวเป็นของขวัญจากฮวน โรแบโต้คาร์ลอส เรสต์รีโป พ่อบุญธรรม ที่ครั้งหนึ่งเคยเล่นให้กับทีมสำรองของเมืองโตลิม่าก่อนที่จะเลิกเล่นและหันมาทำเป็นวิศวกรเจ้าหนู"ฮาเมสไม่เคยอยากเป็นนักฟุตบอล ด้วยพรสวรรค์เลเยทำให้เขาเป็นนักฟุตบอลมาตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก" โดยที่มาเรีย เดอ ปิลาร์ รูบิโอ แม่ของฮาเมสเล่าให้ฟัง ซึ่งฮูโก้ ราคาสตาโน่ ในฐานะผู้จัดการคนแรกของฮาเมสบอกว่าแม่ของฮาเมสมีอิทธิพลกับความคิดและนิสัยของดาวยิงรายนี้อย่างมาก เจ้าหนุ่มน้อย"ฮาเมสถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีที่เป็นผลของความพยายามของพ่อและแม่ ซึ่งผมไม่เคยเห็นเด็กอายุเท่านี้ที่ขยันซ้อมวันละ 2 ครั้งโดยไม่บ่น ด้วยวินัยที่ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กเป็นพื้นฐานนิสัยของเขาจริงๆ"

และด้วยการฝึกซ้อมทำให้มีวินัยมาจากการฝึกซ้อมกับมืออาชีพ โดยนอกเหนือจากการซ้อมกับทีม ฮาเมสยังมีครูสอนพิเศษฟุตบอล ในแต่ละวันเขาจะต้องพัฒนาตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากจะฝึกฝนเทคนิคและแท็กติก เขายังต้องเข้ายิมเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อให้สามารถแข่งกับเพื่อนร่วมทีมที่โตกว่าได้ความกดดันเช่นนี้ที่ปกติจะเกิดกับนักกีฬาที่ไม่ต้องพึ่งพาความสามารถของเพื่อนร่วมทีม โดยอย่างเช่นนักเทนนิส นักยิมนาสติก หรือนักกีฬากอล์ฟ แต่สำหรับฮาเมสกลับแตกต่างออกไปและตัว"ผมบอกเสมอว่าการเป็นนักฟุตบอลจะต้องไม่เหมือนคนปกติ" ฮาเมส เขาได้เคยกล่าวไว้ในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2007 "คนปกติจะออกไปเที่ยวหรือนอนดึกก็ได้ ส่วนใหญ่นักฟุตบอลต้องกินอาหารดีๆ นอนหัวค่ำ และต้องนอนพักหลังอาหารเที่ยง แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นการต้องเสียสละและความทุ่มเทของฮาเมสนี่เองที่ทำให้หนุ่มน้อยติดอย่างกลายมาเป็นที่จับตามองของโลกฟุตบอล ถึงจะเพราะแม้จะครองตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมในทุกทีมที่เคยเล่นมาตั้งแต่ยังเด็ก แต่เขาก็ไม่เคยเผลอตัวตามกระแส อดีตเพื่อนร่วมทีม ดิเอโก้ มาโนโรน่า เล่าย้อนให้ฟังถึงช่วงที่ฮาเมสในรุ่นเล็กกว่าถูกจับให้มาเล่นกับเด็กโตกว่าซึ่งโดย"ปกติผมจะเป็นคนเตะฟรีคิก แต่ฮาเมสเข้ามาคว้าบอลด้วยท่าทางมั่นใจมาก และผมก็เลยยอมให้เขาเตะ และเขาก็ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ฮาเมสปั่นบอลโค้งอ้อมกำแพงเข้าประตูไปอย่างสวยงาม โดยที่เวลาเราซ้อมฟรีคิก เราจะพยายามเตะข้ามกำแพงแต่ไม่เคยมีใครเตะอ้อมกำแพงมาก่อนเลย และในตอนนั้นเราก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นนักฟุตบอลที่พิเศษมาก"ไม่ใช่เพียงแค่ความสามารถโดดเด่นที่ทำให้ฮาเมสแตกต่างจากนักเตะคนอื่น และอีกอย่างคือด้วยความนิ่งเงียบและขี้อายจนหลายคนที่เคยร่วมงานกับหนุ่มน้อยอดเป็นกังวลไม่ได้เพราะซึ่ง"เขาเป็นผู้ฟังที่ดี แต่บางครั้งเราก็กังวลเล็กน้อยที่เขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมามากนัก" โดยที่โชเซ่ คอร์เทส โค้ชของฮาเมสที่อะคาเดเมีย โตลิเมนเซ่ กล่าวซึ่งทาง"เราเคยลองปรึกษานักจิตวิทยาเพราะเขานิ่งมาก"

พนันบอลออนไลน์

และการคว้าแชมป์ฟุตบอลโพนีฟุตบอลคัพ ซึ่งเป็นรายการฟุตบอลทีมเยาวชนของโคลอมเบีย ในที่เมืองเมเดลลิน เป็นการยืนยันว่าในอนาคตฮาเมสจะก้าวไปสู่การเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ เจ้าหนุ่มน้อยฮาเมสวัย 11 ปี ยิง 13 ประตูในการลงสนาม 9 เกม โดย ยิงไป2 ประตูเป็นจังหวะเตะมุม สร้างความประทับใจให้ผู้ชมในสนามกว่า ห้าพัน5,000 คน รวมถึง กุสตาโว อดอลโฟ่ อูเปกุย โลเปซ จากทีมเอนบิกาโด้ เจเอฟซี ซึ่งหลังจากได้เห็นฟอร์มการเล่นในเกมดังกล่าวก็พูดออกมาว่า โดยที่"เราต้องเซ็นสัญญากับเด็กคนนี้ให้ได้"ซึ่งนายอูเปกุย โลเปซ เริ่มต้นจากการทำงานกับอะคาเดมีของทีมเอนบิกาโด้ อยู่ใน(แถบชานเมืองเมเดลลิน) และช่วงหลังกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรในปี คริสศักราช1998 อูเปกุย โลเปซ ถูกจับกุมและถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าตั้งซุ้มมือปืน ที่เขาว่ากันหรือว่าตามที่หนังสือพิมพ์ เซมาน่า กล่าวถึงคือได้"ตั้งกลุ่มอำนาจที่เดิมเป็นแก็งค์ค้ายาในเมืองเมเดลลินที่ถูกตัดขาดหลังจากการเสียชีวิตของปาโบล เมืองเอสโกบาร์" ซึ่งถูกเรียกว่า 'สำนักงานเอนบิกาโด้' และนั่นก็ทำให้หลายคนไม่แปลกใจที่สโมสรนี้มีข่าวลอบฆ่าประธานสโมสรถึง 3 ราย รวมถึงบอร์ดบริหารอีก 1 รายในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาในฐานะอันดับ ที่2 ของ 'สำนักงานเอนบิกาโด้' อูเปกุย โลเปซ ถูกจับกุมตัวหลังจบเกมการแข่งขันกับอินดีเพนเดียนเต้ ทั้งที่โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมตัวเป็นแฟนฟุตบอล แต่หลังจากใช้เวลา ไปทั้งหมด32 เดือนในเรือนจำ (ระยะแรกในกรุงโบโกต้า และจากนั้นย้ายไปที่เรือนจำที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงในเมืองอิตากุย) โดยที่อูเปกุย โลเปซ ก็ถูกปล่อยตัวและพ้นทุกข้อกล่าวหาอย่างน่าแปลกใจและหลังจากออกจากคุก อูเปกุย โลเปซใช้ชีวิตอย่างราชาในบ้านไร่ที่มีการรักษาความปลอดภัยสูง โดยเกิดการลอบสังหารเจ้าพ่อรายนี้เมื่อ 8 ปีที่แล้วดูเหมือนกับในหนังมาเฟีย เจ้าถิ่นอย่างก็อดฟาเธอร์ มือปืน 8 คนบุกบ้านไร่ของอูเปกุย โลเปซช่วงกลางดึก ได้จับเขามัดและปิดปากคนในครอบครัวและคนงานในบ้าน 20 ชีวิต รวมทั้งบอดี้การ์ด 2 ชุด และย่องกริบเข้าไปนอนในห้องนอนของเจ้าพ่อ
มือปืนจับอูเปกุย อาร์ติโลเปซ มัด ก่อนจะพาตัวมาที่โซฟาและยิงหัวโดยใช้หมอนปิดปากกระบอกปืนเพื่อเก็บเสียง โดยการลอบสังหารครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2006 โดยถูกลอบสังหารเพียง ใน35 วัน อูเปกุย โลเปซ ได้เห็นหนุ่มน้อยฮาเมสลงเล่นเกมอาชีพเป็นนัดแรกสมความตั้งใจ






ประวัติของ เฟร์นันโด ยอเรนเต้

ประวัติของ เฟร์นันโด ยอเรนเต้






ข้อมูลส่วนตัวของนักเตะ

ชื่อเต็ม เฟร์นันโด จาเวียร์ ยอเรนเต้ ตอร์เรส


วันเกิด 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1985 (30ปี)


สถานที่เกิด เมืองปัมโปลนา ประเทศสเปน


ส่วนสูง 195 เซนติเมตร 


เท้าที่ถนัด เท้าขวา


ตำแหน่ง กองหน้า


สโมสรปัจจุบัน ยูเวนตุส



ประวัติการค้าแข้ง


เฟอร์นันโดยอเรนตเต้เรจาเวียร์ตอร์เรสเขาได้เกิดในวันที่26 กุมภาพันธ์ ปีค.ศ.1985และเขามีชื่อเล่นเอลเรย์เลออน เป็นนักฟุตบอลมืออาชีพเล่นที่สเปนอิตาลีสโมสรยูเวนตุสเอฟซี เป็นกองหน้ายอเรนเต้เขาเริ่มอาชีพของเขากับเลติกบิลเบา, วิธีการทำงานของเขาผ่านเยาวชนแถวต่าง รวมๆ และกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่ารังเกียจที่สำคัญที่สุดสำหรับสโมสรในทศวรรษต่อไปเนื่องจากการทำทีมแรกที่เปิดตัวในปี ฤดูกาลที่2005 เขายิง 29 ประตูให้กับสโมสร ในการแข่งขันทั้งหมดในฤดูกาล ปีค.ศ.2011-12 และได้รับการอธิบายว่าเป็น "ตำนานบิลบาว"ใน 2013 เขาเซ็นสัญญากับยูเวนตุสชนะเซเรียอาในปีแรกของเขา
สเปนระหว่างประเทศตั้งแต่ปลายปี 2008ยอเรนเต้ได้เป็นสมาชิกของทีมซึ่งได้รับรางวัลฟุตบอลโลก 2010 และยูโร 2012

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
แม้ว่าจะเกิดในเพมยอเรนเต้เติบโตขึ้นมาในเขตเทศบาลเมืองลินคอนเดอโซโตในราโลจาร์เขาเข้าร่วมระบบเยาวชนเลติกบิลเบาในปี 1996 ตอนอายุ 11 ที่มีสิทธิ์ผ่านรากนาวาร์ของเขา

แอธแลนติกบิลเบา
ยอเรนเต้ใช้เวลาหลายฤดูกาลในระดับจูเนียร์ต่าง ๆ ของสโมสรในปี 2003 ย้ายไปซีดีบาสโกเนียของดิวิชั่นแตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้านเยาวชนและกีฬายังมีชมรมป้อนตั้งแต่ปี ค.ศ.1997 เขาค่อยๆปูทางของเขาสำหรับการส่งเสริมการขายบิลเบา - ทีมสำรองของแอ ธ เลติก - ในกันดาดิวิชั่นบี 

พนันบอลออนไลน์

หลังจากสี่คะแนนเป้าหมายของ B ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลยอเรนเต้ได้รับรางวัลที่มีการขยายสัญญาจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2008เมื่อวันที่ 16 เดือนมกราคมปี 2005 เขาทำทีมแรกของเขา - และลาลีกา - เปิดตัวครั้งแรกใน 1- 1 วาดบ้านกับอาซีดีเอสปันญอลสามวันต่อมาในการแข่งขันฟุตบอลโคปาเดลเรย์กับ ยูดีลันซาโรเตเขายิงแฮตทริกในชัยชนะ 6-0และจะไปในลักษณะทั้งหมด รวมแล้วแต่ห้า 19 เกมลีกที่เหลืออยู่ในขณะที่สามคะแนนเป้าหมายและยังมีในการแข่งขันถ้วยในประเทศสี่และยูฟ่าคัพรอบของ 32 เกมกับเอฟเคออสเตรีย

ก่อนที่จะมีการรณรงค์ 2005-06 จำนวนทีมยอเรนเต้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก 32 จำนวนถึง 9เขายิงในวันเปิด, บาสก์ดาร์บี้ชนะ 3-0 เรอัลแต่ตลอดฤดูกาลพบเป้าหมายยาก ที่จะมาด้วยซึ่งอาจจะนำมาประกอบเป็นส่วนหนึ่งกับชุดของการบาดเจ็บที่หัวเข่ารวมทั้งสายพันธุ์กระเพาะอาหารและลำไส้และได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อ.เขาจบฤดูกาลด้วยเพียงสี่เป้าหมายสองในลีกและเท่า ในการแข่งขันฟุตบอลกับสโมสรฟุตบอลฮอสปิตาเลย์. 

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2006ยอเรนเต้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับแอ ธ เลติกจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2011 ซึ่งรวมถึงข้อซื้อออกมาจากระหว่าง€ 30 และ 50 ล้านบาท.เขาเริ่มต้นฤดูกาลที่เนื้อหาของสโมสรกองหน้าสี่ทางเลือกหลังอริตซ์อา, โจเซปเอ็กเบร์เรียและมีประสบการณ์อิสมาเอลอูเซียสรูปแบบที่น่าสงสารนักกีฬาและการขาดเป้าหมายนำไปสู่การฝึกแฟริกซาเลียนเจอส์หมุนผู้เล่นที่ช่วยให้ยอเรนเต้จะบังคับทางของเขากลับเข้ามาในด้าน; และยอเรนเต้เขาสิ้นสุดแคมเปญที่มีเพียงสองประตูใน 23 นัดแม้ว่าเขาจะทำคะแนนที่สำคัญอย่างหนึ่งในนาทีปิดของ 1-1 บาเลนเซียที่ซีเอฟ


ในการเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาล 2007-08ยอเรนเต้ทำแต้มหกเป้าหมายเป็นจำนวนมากในฤดูกาลก่อนเกมและอื่น ๆ กับซีดีนูมันเซียในคาร์จาเดลโล่รางวัล ร่างของเขาทำให้เขากลายเป็นกีฬาของทางเลือกอันดับแรกไปข้างหน้าและแม้ว่าเขาจะเริ่มต้นฤดูกาลไม่ดีเขามันจบลงด้วยรวมเป็น 11 กลุ่มเป้าหมายสำหรับด้านที่เสร็จในกลางโต๊ะ นับของเขารวมถึงสี่เป้าหมายในสองเกมกับบาเลนเซียทั้งชัยชนะที่น่าประทับใจและนัดต่อไปกับเอฟซีบาร์เซโลนา เรอัล ซีเอฟและแอตเลติโก้มาดริด.

ก่อนที่จะ 2008-09ยอเรนเต้มั่นใจของฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จ ยอเรนเต้ได้กล่าวไว้ว่า"ฉันรู้ว่าฉันมีความสามารถในการทำประตูและมีปีที่ดีและฉันต้องการที่จะเริ่มต้นในระยะนี้ในรูปแบบเดียวกับที่ผมสิ้นสุดวันสุดท้ายใน" เขากล่าวแม้จะมีการเริ่มต้นที่เจียมเนื้อเจียมตัวของทีมในฤดูกาลเขาเป็นตาข่าย ไปได้เพียง14 ประตูในลีก - อาชีพที่ดีที่สุด - กับอีกสี่ในถ้วยช่วยให้ทีมงานของเขาถึงขั้นสุดท้ายกับบาร์เซโลนา (1-4 ขาดทุน)

ในฤดูกาล 2009-10ยอเรนเต้อีกครั้งถึงสองร่าง และเขานำเรอร์สทั้งหมดในยูโรป้าลีกเป็นระยะเวลายาวกับแปดเป้าหมายและเพิ่ม 14 ในลีกเป็นเอสเทริ

ก่อนที่จะ 2008-09ยอเรนเต้มั่นใจของฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จ เฟร์นันโดได้บอกว่า"ฉันรู้ว่าฉันมีความสามารถในการทำประตูและมีปีที่ดีและฉันต้องการที่จะเริ่มต้นในระยะนี้ในรูปแบบเดียวกับที่ผมสิ้นสุดวันสุดท้ายใน" เขากล่าวแม้จะมีการเริ่มต้นที่เจียมเนื้อเจียมตัวของทีมในฤดูกาลเขาเป็นตาข่าย ได้ถึง14 ประตูในลีก - อาชีพที่ดีที่สุด - กับอีกสี่ในถ้วยช่วยให้ทีมงานของเขาถึงขั้นสุดท้ายกับบาร์เซโลนา (1-4 ขาดทุน)

ต่อมาในฤดูกาล 20010-11ยอเรนเต้ อีกครั้งถึงสองร่าง โดยที่เขานำเรอร์สทั้งหมดในยูโรป้าลีกเป็นระยะเวลายาวกับแปดเป้าหมายและเพิ่ม ได้อีก14 ในลีกเป็นกีฬาเสร็จในตำแหน่งที่แปด เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2010ยอเรนเต้เป้าหมายแรกของการรณรงค์ 2010-11 ในชนะ 1-0 ที่เอร์กูเลซีเอฟร่างของเขายังคงอยู่ในการแข่งขันต่อไปสิบลีกในขณะที่เขาพบสุทธิเจ็ดครั้งในที่สุดก็จบฤดูกาล รวมไปถึงกับเป้าหมายที่ 18 (19 โดยรวม) เป็นกีฬาที่มีคุณภาพเพื่อยูโรป้าลีก

พนันบอลออนไลน์

ในเดือนมกราคมกับเดือนกุมภาพันธ์ 2012, ในสองเกมออกไปแยกจากกันโดยเฉพาะสี่วันยอเรนเต้คะแนนห้าเป้าหมายเขาเริ่มต้นด้วยหมวกเคล็ดลับในการเอาชนะ 3-2 ราโย่บาเยกาโน่เพิ่มอีกสองในแอธเลติก 2-1 ชนะเหนือซีดีมิรานเดสในรอบรองชนะเลิศถ้วยสเปนในอีกสองนัดทั้งที่บ้านเขาเป็นตาข่ายสามมากขึ้นหนึ่งกับเอสปันญ่ในลีกและสองกับมิลานเดส
ยอเรนเต้คะแนนในขาทั้งสองข้างของยูโรป้าลีก 2011-12 รอบของ อันดับที่16 กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นกีฬาที่ได้รับรางวัลทั้งสองเกมและเดินผ่าน 5-3 รวมในรอบต่อไปเขาเป็นตาข่ายเป็นครั้งที่สองเอฟซี ชาลเก้ 04 ในชนะ 4-2 ช่วยให้ทีมในที่สุดก็ถึงขั้นสุดท้าย

ในเดือนสิงหาคม 2012ยอเรนเต้ปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงใหม่กับเลติกบิลเบาเชื้อเพลิงการเก็งกำไรว่าเขาอาจจะออกจากสโมสรหลังจากการสูญเสียดาร์บี้ แมตช์ด้วยสกอร์0-2 ที่เรอัลเมื่อวันที่ 29 กันยายนซึ่งเขาเป็นสายแทนเขา ได้เข้าทะเลาะกับผู้จัดการมาร์เซโลเบลซาร์สองวันต่อมาเขาก็เดินออกมาในช่วงต้นของการฝึกอบรมและถูกส่งไปฝึกซ้อมกับทีมเยาวชนและเป็นผลให้ความสัมพันธ์ของเขากับผู้สนับสนุนของสโมสรและประธานโจโซอูเพิ่มเติมเสื่อมโทรม

ในเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2013,สโมสรแอธเลติกยืนยันว่ายอเรนเต้จะได้รับการพูดถึงการถือครองสัญญากับยูเวนตุสเมื่อวันที่ ยี่สิบเอ็ด21 ผู้อำนวยการกีฬาอิตาเลียน 'จูเซปเป้มารอตตาเปิดเผยว่าเขาเป็น "ในแง่ดีมาก" ที่ผู้เล่นจะเข้าร่วมในวันที่ 1 กรกฎาคมที่มีบิลเบาประธานโจซูอูเชื่อว่าจะไม่เต็มใจที่จะให้เขาออกในเดือนมกราคมย้ายหน้าต่างสามวันต่อมาสโมสรอย่างเป็นทางการลงนามและประกาศว่าเขาจะเซ็นสัญญาสี่ปีในวันที่ 1 เดือนกรกฎาคมเมื่อสัญญาของเขากับบิลเเบาหมดอายุยูเวนตุสยังจ่ายตัวแทนของเขา€3,038,000เฟร์นันโดยอเรนเต้คะแนนเพียงห้าเป้าหมายในการแข่งขันอย่างเป็นทางการ 36 ในปีสุดท้ายของเขากับแอธเลติกเล่นส่วนใหญ่เป็นสำรองสำหรับอดูริส

พนันบอลออนไลน์

ยูเวนตุส
ยอเรนเต้อย่างเป็นทางการกลายเป็นผู้เล่นที่ยูเวนตุสเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2013 หลังจากผ่านทางการแพทย์ที่สโมสรเขาได้รับหมายเลข 14 เสื้อและตาข่ายเป้าหมายแรกของเขาในซีรีเมื่อวันที่ 22 กันยายน เริ่มต้นในบ้านชนะ 2-1 เฮลลาสเวโรนาเอฟซี
ในที่สองและสามที่เคยปรากฏตัวในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกของเขายอเรนเต้จัดการเพื่อหาสุทธิทั้งสองครั้งกับเรอัลมาดริดเวทีกลุ่ม 2013-14 (1-2 ห่างสูญเสียบ้านดึง 2-2)ที่ 1 ธันวาคมเขายิงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บสำหรับเป้าหมายเดียวของเกมที่บ้านกับอูดิเนเซไม่กี่สัปดาห์หลังจากการพูดในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับรากัสเซศต้าเดโลสปอร์ตเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับอดีตผู้จัดการเบวซ่า.
ยอเรนเต้แรกของสองเป้าหมายปี 2014 มาในวันที่ 12 มกราคมคะแนนจากส่วนหัวและจากช่วงใกล้ที่สุดเท่าที่ยูเวนตุสแพ้ 4-1 กายารี่ออกไปเพื่อขยายลีกชนะเลิศวิ่งไป 11 นัด. เมื่อวันที่ เจ็ด7 เมษายนเขาตาข่ายทั้งสองของเขา เป้าหมายของทีมในการประสบความสำเร็จในบ้าน 2-0 เอเอสลิวอร์โน่แคลซิโอยืนยันบนสองเสร็จในวันสุดท้ายของฤดูกาลอีกครั้งกับกายารี่เขามีส่วนกับเป้าหมายเป็นเจ้าภาพชนะ ด้วสกอร์3-0 ที่จะกลายเป็นทีมที่มีคะแนนมากที่สุดในเซเรียอาเดียวแคมเปญที่ใช้ 102

พนันบอลออนไลน์

ระดับประเทศ
เฟร์นันโดยอเรนเต้เป็นตัวแทนของสเปนที่ 2005 ฟีฟ่าเยาวชนชิงแชมป์โลกห้าเป้าหมายของเขาชนะเขาบูตเงินเป็นสองแต้มสูงสุดของการแข่งขัน.เขาได้รับการต่อยอดที่ยังอยู่ภายใต้การ-18 และต่ำกว่าระดับ 19 และเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2008 ในทีมชาติผู้จัดการอาวุโสเซนเตเดลบอสเก้เรียกว่ายอเรนเต้ขึ้นสำหรับการเป็นมิตรกับชิลี.เขาถูกนำตัวในฐานะผู้แทนในนาทีที่ 72 ของการชนะ 3-0.เขาทำประตูแรกของเขา ในชนะ 2-0 มิตรประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ สิบเอ็ด11 เดือนกุมภาพันธ์ 2009 มาจากม้านั่งที่จะทำคะแนนในนาทีที่ 64.หลังจากตาข่าย 14 เป้าหมายสำหรับกีฬาใน 2008-09,เดบอสเก้ชื่อยอเรนเต้ในทีม ทั้งหมด23 คนของเขาสำหรับถ้วยฟีฟ่าสหพันธ์ 2009: เขาถูกนำมาใช้แทนกับเจ้าภาพแอฟริกาใต้และคะแนนในชัยชนะ 2-0
ในช่วงฤดูกาล 2009-10ยอเรนเต้ไม่ได้เรียกว่าขึ้นครั้งเดียวเดลบอสเก้ได้รับการสนับสนุนอัลบาโรเนเกรโด ไม่ว่าจะอย่างไรจะเลือกสำหรับฟุตบอลโลก 2010 ยังอยู่ในแอฟริกาใต้เป็นกองหน้าตัวเลือกที่สามที่เขาเล่นในการแข่งขันสำหรับแชมป์ในที่สุด, 30 นาทีสุดท้ายของ 1-0 รอบของ 16 ชนะกับโปรตุเกส
เมื่อวันที่ 8 เดือนตุลาคม 2010, ได้รับประโยชน์จากการบาดเจ็บของเฟร์นันโดตอร์เรส,ยอเรนเต้ เริ่มต้นในยูฟ่ายูโร 2012 รอบคัดเลือกกับลิทัวเนียในซารามันก้ามีสองหัว โดยมร- สินทรัพย์ที่แข็งแกร่งของเขา - เขามีส่วนสำคัญในชนะ 3-1 และหลังจากนั้นสี่วันต่อมาแทนเขาทำแต้มชนะกับสกอตแลนด์ 3-2 ในความสำเร็จที่แฮมป์เดนปาร์ค และสุดท้ายเขาได้รับเลือกสำหรับขั้นตอนสุดท้ายในโปแลนด์และยูเครนเป็นสมาชิกกลุ่มที่ไม่ได้ใช้เป็นสเปนชนะในการแข่งขันอีก 

เฟร์นันโดยอเรนเต้ยอมรับร่วมทีมม้าลายเหมือนฝันที่เป็นจริง

เฟร์นันโดยอเรนเต้ศุนย์หน้าแอธแลนติกบิลเบายอมรับว่าการที่เขาได้ย้ายไปร่วมทีมกับยูเวนตุสเหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับเขามันเป็นเรื่องที่ดีมากพร้อมยังขอบคุณแฟนบอลและต้นสังกัดเก่าที่คอนสนับสนุนเขาในช่วง8ปีที่ผ่านมา ดาวเตะอย่างเฟร์นันโดยอเรนเต้กองหน้าของแอธฯบิลเบาทีมสโมสรแห่งศึกลาลีกาสเปนออกมากล่าวเมื่อวันที่25มกราคมที่ผ่านมาว่าเขาอยากขอบคุณต้นสังกัดเก่าและรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ย้ายมาร่วมทัพกับเจ้าม้าลาย"ยูเวนตุส"สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโซ่เซียเรียอาหลังจากที่ทีมม้าลายตกลงคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้